All-New Mitsubishi XFORCE HEV 2025 (ราคา 899,000 – 1,089,000 บาท)

Mitsubishi XFORCE HEV 2025 คู่แข่ง Toyota Yaris Cross จัดอยู่ในกลุ่ม B-SUV และคาดว่าจะนำเข้ามาจำหน่ายในช่วงเดือนมีนาคม ปี 2025 นี้
ด้านขุมกำลัง Mitsubishi XFORCE ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร MIVEC 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ให้พละกำลังสูงสุด 95 แรงม้า ที่ 5,100 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 135 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที ผสานกำลังร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 116 แรงม้า 255 นิวตันเมตร แบทเตอรี Lithium-Ion 1.1 kWh อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 9.2 วินาที
ราคาจำหน่าย Mitsubishi XFORCE HEV 2025
- Mitsubishi XFORCE HEV Ignite ราคา 899,000 บาท
- Mitsubishi XFORCE HEV Ultimate ราคา 1,039,000 บาท
- Mitsubishi XFORCE HEV Ultimate X ราคา 1,089,000 บาท
Hyundai Ioniq 5 N Line 2025 (ราคา 1,988,000 บาท)

Hyundai Ioniq 5 N Line ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 1 ชุด ขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง กำลังสูงสุด 170 กิโลวัตต์/228 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร/35.7 กก.ม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 7.4 วินาที แบทเตอรีความจุ 84 kWh ระยะทำการสูงสุดเมื่อชาร์จเต็ม คือ 530 กม. (มาตรฐาน WLTP) ระบบไฟฟ้าแบบ 800 V รองรับการชาร์จไฟฟ้าแบบ DC สูงสุดถึง 350 กิโลวัตต์ ส่วนแบบ AC สูงสุด 11 กิโลวัตต์
Zeekr 009 2025 (ราคา 3,099,000 – 3,159,000 บาท)

Zeekr เปิดตัว 009 ด้วยรุ่น Flagship AWD 6 ที่นั่ง แบบ 2+2+2 โดยตั้งราคาไว้ 3,099,000 บาท เมื่อปีก่อน และในปีนี้ เพิ่มรุ่น Premium AWD 7 ที่นั่ง แบบ 2+2+3 เอาไว้รับกับครอบครัว และเพื่อนๆ ในราคาเดิม 3,099,000 บาท และจ่ายเพิ่ม 6 หมื่นบาท เป็น 3,159,000 บาท สำหรับรุ่น Flagship AWD 6 ที่นั่ง ในปี 2025
Zeekr 009 มาพร้อมมอเตอร์แม่เหล็กถาวร (Permanent Magnet Synchronous Motor) 2 ตัว ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ AWD พละกำลังรวมสูงสุด 450 กิโลวัตต์/603 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 693 นิวตันเมตร หรือ 70.7 กก.ม.
วิ่งไกล 582 กม./การชาร์จ 1 ครั้ง มาตรฐาน WLTP (686 กม. ตามมาตรฐาน NEDC) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 4.5 วินาที และความเร็วสูงสุด 190 กม./ชม.
ราคาจำหน่าย Zeekr 009 2025
- Zeekr 009 Premium AWD 7 Seat ราคา 3,099,000 บาท
- Zeekr 009 Flagship AWD 6 Seat ราคา 3,159,000 บาท
Kia EV3 2025

Kia EV3 รถยนต์พลังไฟฟ้าล้วน มาพร้อมขุมกำลังมอเตอร์เดี่ยวติดตั้งที่เพลาล้อคู่หน้าให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 283 นิวตันนเมตร ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 7.5 วินาที แบทเตอรีคาดว่ามีให้เลือก 2 ขนาดความจุ 58.3 kWh และ 81.4 kWh วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 600 กม./การชาร์จ 1 ครั้ง (WLTP)
BMW X3 2025 (G45) (ราคาคาดการณ์ ไม่เกิน 3.9 ล้านบาท)

BMW X3 20d xDrive M Sport Pro ใหม่ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 145 กิโลวัตต์ / 197 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. แบบทันใจในเวลา 7.7 วินาที ส่วนตัวแรง X3 M50 xDrive ซึ่งเป็น X3 ที่มีสมรรถนะ M Performance เป็นรุ่นแรกในตลาดไทย ยกระดับความตื่นเต้นทั้งบนท้องถนน และเส้นทางออฟโรดไปอีกขั้นด้วยเครื่องยนต์ 6 สูบ เทคโนโลยี TwinPower Turbo ความจุ 3.0 ลิตร ส่งกำลังสูงสุด 293 กิโลวัตต์ / 398 แรงม้า สู่ล้อทั้งสี่ผ่านเกียร์อัตโนมัติ Steptronic Sport 8 จังหวะ และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ BMW xDrive ทั้งหมดนี้ทำให้ BMW X3 M50 xDrive ใหม่ สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ได้ในเวลาเพียง 4.6 วินาที
นอกจากนี้ BMW X3 ใหม่ ทั้งสองรุ่น ยังพร้อมเติมความแรง ให้การตอบสนองที่ฉับไวยิ่งกว่าเมื่อกดคันเร่งด้วยระบบ Sport Boost โดยทั้งสองรุ่นนำระบบ mild hybrid 48V มาทำงานคู่กับเครื่องยนต์หลักเพื่อให้ส่งกำลังได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นและประหยัดน้ำมันมากขึ้นไปพร้อมกัน (ส่วนเรื่องราคาต้องรอการประกาศอย่างเป็นทางการอีกที)
Mazda CX-50 Hybrid 2025

Mazda CX-50 Hybrid 2025 เปิดตัว และวางจำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกา ทางทีมวิศวกรของ Mazda ได้นำระบบ Toyota Hybrid System มาใช้ โดยมีการปรับเปลี่ยนระบบส่งกำลังไฮบริดใหม่ให้ตอบสนองคันเร่งมากขึ้น เพื่อเพิ่มความสนุกในการขับขี่ตามแบบฉบับของ Mazda CX-50 แต่ยังคงไว้ซึ่งการขับขี่ที่นุ่มนวล และความสามารถในการลากจูงได้สูงถึง 680 กก.
Mazda CX-50 Hybrid 2025 ประกอบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว เครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร 4 สูบ ระบบส่งกำลังแบบแปรผันต่อเนื่อง ที่ควบคุมด้วยระบบอีเลคทรอนิคส์ ให้กำลัง 219 แรงม้า แรงบิด 226 นิวตันเมตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ สามารถทำอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงได้ 16 กม./ลิตร
Toyota Hilux Hybrid 2025

Toyota Hilux Hybrid 2025 มาพร้อมการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในด้านของดีไซน์ ตัวรถถูกออกแบบใหม่ทั้งหมด มาพร้อมกระจังหน้าที่ดูโหดดุดัน และอาจใช้พื้นฐานแพลตฟอร์ม TNGA-F ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานของ Toyota Tundra, Tacoma และ LandCruiser 300 Series 4WD
ด้านขุมพลังของ Hilux Hybrid 2025 ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร พร้อมเทคโนโลยีไฮบริด 48V กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร
Hyptec HL 2025

Hyptec HL 2025 เอสยูวีแฟลกชิพสุดหรู เปิดตัวที่งาน Auto Guangzhou 2024 มาพร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะ และความหรูหราระดับเรือสำราญ พร้อมจำหน่ายในจีนต้นเดือนกุมภาพันธ์ปี 2025
ในด้านระบบขับเคลื่อน Hyptec HL 2025 สร้างบนแพลทฟอร์ม AEP 3.0 บนสถาปัตยกรรมแบทเตอรี 800 โวลท์ มีทั้งรุ่นไฟฟ้าล้วน BEV และรุ่นขยายระยะทาง REEV ทั้งสองรุ่นรองรับการชาร์จกระแสตรงถึง 5C โดยมีให้เลือกสำหรับตลาดประเทศจีน
โดยรุ่น BEV ติดตั้งมอเตอร์ขับเคลื่อนไฟฟ้าทั้งรุ่นมอเตอร์เดี่ยว และมอเตอร์คู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD วิ่งไกล 750 กม./การชาร์จ 1 ครั้ง (มาตรฐาน CLTC) รองรับการชาร์จเร็วเพิ่มระยะทางได้อีก 265 กม. ด้วยการชาร์จเพียง 5 นาที ตอนนี้ทางแบรนด์ยังไม่มีการเผยข้อมูลระบบส่งกำลัง สำหรับรุ่น REEV มีระยะทางขับเคลื่อนด้วยแบทเตอรีกว่า 350 กม. และระยะทางจากเครื่องยนต์สำหรับปั่นกระแสไฟฟ้าสามารถทำระยะทางรวมเกิน 1,200 กม.
สำหรับ Hyptec HL 2025 ในตลาดประเทศจีนจะประกาศเปิดรับจองสิทธิ์ Pre-Sale ในช่วงกุมภาพันธ์ปี 2025 ซึ่งยังไม่มีแผนการทำตลาดในประเทศไทยตอนนี้ แต่เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าจับตามองว่าแบรนด์ Hyptec อาจนำรถรุ่นนี้โชว์ตัวเพื่อเรียกกระแสในอนาคตให้มาทำตลาดอย่างจริงจังก็เป็นได้
GWM WEY 80 PHEV 2025 (ราคาคาดการณ์ 1.7 – 2 ล้านบาท)

WEY 80 รถเอมพีวี 7 ที่นั่ง จากค่าย GWM มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.5T ผสานกำลังกับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ให้กำลังสูงสุด 480 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 762 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.7 วินาที แบทเตอรี NMC ความจุ 37.96 kWh
GWM Tank 700 2025 (ราคาคาดการณ์ 2 ล้านบาท)

Tank 700 เอสยูวียักษ์ใหญ่เรือธงจาก Great Wall Motor ขุมพลังปลั๊ก-อิน ไฮบริด ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 3.0T Hi4-T แบบ Longitudinal Parallel Hybrid ระยะทางขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100 กม./การชาร์จ 1 ครั้ง (NEDC)