
NETA ประสบความสําเร็จเป็นอย่างสูงจากการแนะนํารถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่มีนวัตกรรมลํ้าสมัยที่ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้อย่างแท้จริงในตลาดจีนและเป็นแบรนด์รถยนต์พลังงานใหม่ที่มีศักยภาพมากที่สุดในประเทศจีนด้วยยอดขายสะสมรวมกว่า 260,000 คัน ทั้งนี้ในปีที่ผ่านมา NETA ได้เริ่มต้นเส้นทางธุรกิจในตลาดต่างประเทศโดยมีประเทศไทยเป็นเป้าหมายแรกเพื่อเป็นฐานในการเข้าถึงประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคอาเซียน
รวมทั้งตอบสนองความต้องการรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นของผู้ใช้ทั่วโลก การส่งออกรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% จํานวนกว่า 3,600 คัน สู่ตลาดเมืองไทยในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการส่งออกรถยนต์พลังงานไฟฟา้ที่ผลิตโดยบริษัทสตาร์ทอัพของจีนในจํานวนที่สูงที่สุดแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าไป อีกขั้นของแผนการดําเนินงานระดับสากลของ NETA ได้เป็นอย่างดี

ที่มา – NETA AUTO Thailand
“ในปีนี้ เราจึงต้องการต่อยอดไปสู่สร้างคอมมูนิตี้ ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ และทำให้พวกเราใกล้กันมากยิ่งขึ้น ด้วยการชวนคนที่มี Passion for Benz มาเป็น “Friend with Benz” ด้วยกันกับเรา โดยนอกจากการเปิดโอกาสให้ทุกคนได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆ ที่มี Passion เหมือนกัน มาพบเจอกันที่บูธเมอร์เซเดส-เบนซ์ ทุกคนยังสามารถทำความรู้จักกับยนตรกรรมทุกรุ่นของเรา ที่นำมาจัดแสดงแบบครบทุกเซกเมนต์ โดยเฉพาะ 3 เพื่อนใหม่ในตระกูล Mercedes-AMG ที่เราเปิดตัวไปเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา”
นอกจากนี้ เราอยากแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับโปรแกรม MANUFAKTUR Exclusive ที่จะเข้ามาสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับการปรับแต่งรถยนต์ระดับลักชัวรีในประเทศไทย ภายใต้คอนเซปต์ “MADE TO MEASURE” โดยเปิดให้ลูกค้าในกลุ่ม Top-End Luxury ครอบคลุมทั้งโมเดล S-Class จนไปถึงไลน์อัพระดับ Flagship ของแบรนด์ Mercedes-AMG และ Mercedes-Maybach รวมถึงโมเดลต้นกำเนิดของ MANUFAKTUR อย่าง G-Class ซึ่งโปรแกรมดังกล่าว จะทำให้ลูกค้าสามารถปรับแต่งรถยนต์ของตัวเองได้อย่างไร้ขีดจำกัด ไม่ว่าจะเป็น การเลือกสีตัวถังเพิ่มเติมได้มากขึ้นถึง 50 แบบ และออปชั่นสีภายในอีกกว่า 20 แบบ รวมถึงแพ็กเกจ MANUFAKTUR optional extra ที่ให้คุณตกแต่งรถยนต์รอบคันทั้งภายในและภายนอกได้ตามที่ต้องการ โดยถ้าให้พูดถึงโปรแกรม MANUFAKTUR สำหรับ G-Class คุณจะสามารถออกแบบรถยนต์ของคุณให้มีความแตกต่างกันได้มากถึง 1 ล้านแบบ ซึ่งนั่นทำให้ G-Class ทุกคันที่อยู่บนถนนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สะท้อนถึงเจ้าของรถได้อย่างชัดเจน”
.jpg)
และเพื่อตอกย้ำแนวคิดของแคมเปญ “Friend with Benz” ที่อยากให้ทุกคนร่วมเป็นส่วนหนึ่งของคอมมูนิตี้เดียวกันกับเมอร์เซเดส-เบนซ์ ทางแบรนด์ได้นำเสนอโปรโมชั่นสุดพิเศษ “Friend get Friend” ด้วยเงื่อนไขการรับข้อเสนอเพียงอย่างเดียวคือการชวนเพื่อนมาซื้อรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่งาน Motor Show 2025 หรือที่ตัวแทนจำหน่ายฯ ทั่วประเทศ โดยลูกค้าจะได้รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติมที่มีเฉพาะในช่วงเวลานี้เท่านั้น
ทำความรู้จัก 3 เพื่อนใหม่จากครอบครัว Mercedes-AMG
.jpg)
“Mercedes-AMG G 63” เพื่อนใหม่สายลุย เจ้าของตำแหน่งพี่ใหญ่แห่งเส้นทาง Off-Road
มาพร้อมส่วนผสมที่ลงตัวทั้งความแข็งแกร่ง สมรรถนะที่ทรงพลัง และเอกลักษณ์เฉพาะที่เหนือกาลเวลา โดยติดตั้งเครื่องยนต์ V8 Bi-Turbo ขนาด 4.0 ลิตร ที่ออกแบบโดย AMG และเกียร์แบบใหม่ AMG SPEEDSHIFT TCT 9-SPEED SPORTS TRANSMISSION พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์ลื่นไหลและแม่นยำ มอบพละกำลังสูงสุด 585 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 850 นิวตันเมตร ทำให้สามารถเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายใน 4.5 วินาที พร้อมยกระดับสมรรถนะด้วยระบบ Mild Hybrid ที่ผสานการทำงานเข้ากับพื้นฐานเครื่องยนต์ V8 ภายใต้แนวคิด “One Man, One Engine” เสริมพลังการออกตัวที่เฉียบคม และตอบสนองได้รวดเร็วยิ่งขึ้น วางจำหน่ายในราคาเริ่มต้น 18,800,000 บาท
.jpg)
“Mercedes-AMG SL 55 4MATIC+” เพื่อนใหม่สายสปอร์ตที่ผสานเสน่ห์ของยนตรกรรมเปิดประทุนสุดหรูรถยนต์กับความเป็นที่สุดในทุกด้านจาก Mercedes-AMG มาพร้อมเครื่องยนต์อันทรงพลังในแบบฉบับ AMG ประกอบขึ้นโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญเพียงผู้เดียว ตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงขั้นตอนสุดท้ายแบบ “One Man, One Engine” ด้วยเครื่องยนต์แบบ V8 ขนาด 4.0 ลิตร พร้อมระบบอัดอากาศแบบ Bi-Turbo มอบพละกำลังสูงสุด 476 แรงม้าที่ 2,250-4,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตรที่ 5,500-6,500 รอบต่อนาที ทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลาเพียง 3.9 วินาที และความเร็วสูงสุด 295 กิโลเมตร/ชั่วโมง มาพร้อมระบบขับเคลื่อนแบบ AMG Performance 4MATIC+ แบบ all-wheel drive ซึ่งถูกปรับแต่งให้สามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งการขับขี่บนถนนปกติและในสนามแข่ง วางจำหน่ายในราคาเริ่มต้น 14,900,000 บาท
.jpg)
“Mercedes-AMG GT 63 4MATIC+” เพื่อนใหม่สายทรงพลัง ยนตรกรรมตระกูล GT เจเนอเรชั่นที่ 2 ของแบรนด์ Mercedes-AMG ครั้งนี้กลับมาเปิดตัวในประเทศไทย ด้วยรหัสตัวถัง C192 ออกแบบภายใต้แนวคิด “One Man, One Engine” ติดตั้งเครื่องยนต์ V8 ขนาด 4.0 ลิตรพร้อมระบบอัดอากาศแบบ Bi-Turbo และติดตั้งในตำแหน่งอันเป็นเอกลักษณ์แบบ hot inside “V” ทำให้เครื่องยนต์สามารถสร้างพละกำลังได้สูงถึง 585 แรงม้า แรงบิดสูงสุดถึง 800 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 3.2 วินาที และความเร็วสูงสุดถึง 315 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยรถรุ่นนี้ได้ถูกปรับแต่งระบบควบคุมเครื่องยนต์เพื่อเพิ่มสมรรถนะและการตอบสนองของเครื่องยนต์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ด้วยการควบคุมระบบอัดอากาศให้เหมาะสมตามการขับขี่ และตกแต่งฝาครอบเครื่องยนต์ด้วยลายเซ็นของผู้ประกอบที่บ่งบอกถึงสัญลักษณ์ของ AMG วางจำหน่ายในราคาเริ่มต้น 15,900,000 บาท
สามารถรับข้อเสนอพิเศษเดียวกันกับงาน Motor Show 2025 ได้ที่ตัวแทนจำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการทั้ง 33 แห่ง ทั่วประเทศ หรือ ผ่านช่องทางออนไลน์ที่ www.mercedes-benz.co.th หรือโทร 1250