ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้ารายสัปดาห์ในจีนเติบโตขึ้นต่อเนื่อง ยอดจดทะเบียนเพิ่มขึ้น นำโดย BYD, Tesla, Changan
รายงานโดย Li Auto ได้เผยถึงข้อมูลยอดขายรายสัปดาห์ของตลาดรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) ในประเทศจีน ที่รวมทั้งรถ BEV, PHEV และ EREV ตั้งแต่วันที่ 13-19 พฤศจิกายน 2023 โดยใช้ข้อมูลจากการลงทะเบียนประกันภัยรายสัปดาห์ พบแบรนด์ที่จดทะเบียนมากที่สุด ดังนี้
- อันดับ 1 BYD ยอดจดทะเบียน 52,200 คัน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 8%
- อันดับ 2 Tesla ยอดจดทะเบียน 16,300 คัน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 28%
- อันดับ 3 Wuling ทำยอดขายได้ 12,300 คัน
- อันดับ 4 Changan ยอดจดทะเบียน 10,500 คัน โดยยอดรถภายใต้แบรนด์ Changan 7,000 คัน และภายใต้แบรนด์ลูก Deepal 3,500 คัน
- อันดับ 5 Li Auto ทำยอดขายได้ 10,000 คัน
BYD แบรนด์ที่ทำยอดขายอันดับหนึ่งในจีน เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าใหม่เกือบทุกเดือน โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ได้เปิดตัว Sea Lion 07 รถ SUV ไฟฟ้ารุ่นใหม่ในงาน Guangzhou Auto Show และบริษัทก็ประกาศด้วยว่าจะมีรถ SUV ไฟฟ้าอีกหลายรุ่นเปิดตัวในปีหน้า
BYD Sea Lion 07
รวมถึงกลางเดือนธันวาคมนี้ BYD ก็จะวางจำหน่ายรถ SUV ไฟฟ้ารุ่น Song L อย่างเป็นทางการด้วย ตอนนี้ทำยอดจองได้มากกว่า 11,000 คัน คาดว่าการเปิดตัว SUV ไฟฟ้าของ BYD นั้นตั้งใจที่จะแข่งขันกับ Tesla Model Y และแบรนด์อื่น ๆ ในจีน
BYD Song L
สำหรับ Tesla ในสัปดาห์ที่ผ่านมาทำยอดขายได้ 16,300 คัน โดย 12,800 คันเป็นยอดขายของรุ่น Model Y และยอดอีก 3,500 คันเป็นยอดขายของรุ่น Model 3 รีเฟรชใหม่ ในขณะเดียวกัน Tesla ก็ปรับราคารถบางรุ่นขึ้นเล็กน้อยช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ส่วน Changan นั้นสิ่งที่น่าสนใจคือ แบรนด์ลูก Deepal ที่ทำยอดขายรายสัปดาห์ได้ 3,500 คัน เพิ่มขึ้น 9.38% จากสัปดาห์ก่อนหน้า โดยขายรถอยู่ 2 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ รถ SUV ไฟฟ้ารุ่น Deepal S7 และรถเก๋งไฟฟ้ารุ่น Deepal SL03 ซึ่ง 2 รุ่นนี้เข้ามาทำการตลาดในประเทศไทยด้วย โดยใช้ชื่อรุ่นว่า Deepal S07 (SUV) และ Deepal L07 [ชมพรีวิวได้ที่นี่]
https://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?gdpr=0&client=ca-pub-1553004308124680&output=html&h=280&adk=3065861061&adf=2741893376&pi=t.aa~a.2265784350~i.35~rp.4&w=662&abgtt=6&fwrn=4&fwrnh=100&lmt=1743199517&num_ads=1&rafmt=1&armr=3&sem=mc&pwprc=7499398984&ad_type=text_image&format=662×280&url=https%3A%2F%2Fev.iphonemod.net%2Fchina-nev-sales-weekly-grew-13-19-nov-2023%2F&fwr=0&pra=3&rh=166&rw=662&rpe=1&resp_fmts=3&wgl=1&fa=27&uach=WyJXaW5kb3dzIiwiMTAuMC4wIiwieDg2IiwiIiwiMTM0LjAuNjk5OC4xNzgiLG51bGwsMCxudWxsLCI2NCIsW1siQ2hyb21pdW0iLCIxMzQuMC42OTk4LjE3OCJdLFsiTm90OkEtQnJhbmQiLCIyNC4wLjAuMCJdLFsiR29vZ2xlIENocm9tZSIsIjEzNC4wLjY5OTguMTc4Il1dLDBd&dt=1743495846471&bpp=3&bdt=845&idt=3&shv=r20250327&mjsv=m202503260101&ptt=9&saldr=aa&abxe=1&cookie=ID%3Dd9464c5a60bfe897%3AT%3D1741687920%3ART%3D1743495844%3AS%3DALNI_MbUDudO-GAzBbQFTxplRyx9HgI4vg&gpic=UID%3D0000105d540e04e0%3AT%3D1741687920%3ART%3D1743495844%3AS%3DALNI_MaA6sqo9C__8lbLrNafsiEck2_w6g&eo_id_str=ID%3D23d59756e92b9a84%3AT%3D1741687920%3ART%3D1743495844%3AS%3DAA-AfjbS8-NPgM4JUpdwgVQQfAs1&prev_fmts=0x0%2C300x250%2C336x280%2C300x250%2C334x250%2C364x50&nras=4&correlator=2650410802637&frm=20&pv=1&u_tz=420&u_his=8&u_h=1080&u_w=1920&u_ah=1040&u_aw=1920&u_cd=24&u_sd=1&dmc=8&adx=425&ady=4763&biw=1905&bih=953&scr_x=0&scr_y=994&eid=95355972%2C95355974%2C31090664%2C95356499%2C95356506%2C31091324%2C95356788%2C95356928&oid=2&pvsid=2974004214084014&tmod=1854575193&uas=0&nvt=1&ref=https%3A%2F%2Fwww.google.com%2F&fc=1408&brdim=0%2C0%2C0%2C0%2C1920%2C0%2C1920%2C1040%2C1920%2C953&vis=1&rsz=%7C%7Cs%7C&abl=NS&fu=128&bc=31&bz=1&td=1&tdf=2&psd=W251bGwsbnVsbCxudWxsLDNd&nt=1&pgls=CAEQBRoGMy4xOC4z&ifi=5&uci=a!5&btvi=5&fsb=1&dtd=275
ในส่วนของ Nio แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าแบบสลับแบตเตอรี่ก็ทำยอดขายเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า ด้วยยอดขาย 3,700 คัน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 27.59% โดยยอดขายส่วนใหญ่เป็นของรถไฟฟ้าซีดาน ES6 UV และ ET5 ซึ่งบริษัทก็มีแผนเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นหรูหราคล้ายกับ Mercedes-Maybach ในงาน Nio Day เดือนธันวาคม อาจจะทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นในช่วงนั้น
https://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?gdpr=0&client=ca-pub-1553004308124680&output=html&h=280&adk=3065861061&adf=2680053310&pi=t.aa~a.2265784350~i.39~rp.4&w=662&abgtt=6&fwrn=4&fwrnh=100&lmt=1743199517&num_ads=1&rafmt=1&armr=3&sem=mc&pwprc=7499398984&ad_type=text_image&format=662×280&url=https%3A%2F%2Fev.iphonemod.net%2Fchina-nev-sales-weekly-grew-13-19-nov-2023%2F&fwr=0&pra=3&rh=166&rw=662&rpe=1&resp_fmts=3&wgl=1&fa=27&uach=WyJXaW5kb3dzIiwiMTAuMC4wIiwieDg2IiwiIiwiMTM0LjAuNjk5OC4xNzgiLG51bGwsMCxudWxsLCI2NCIsW1siQ2hyb21pdW0iLCIxMzQuMC42OTk4LjE3OCJdLFsiTm90OkEtQnJhbmQiLCIyNC4wLjAuMCJdLFsiR29vZ2xlIENocm9tZSIsIjEzNC4wLjY5OTguMTc4Il1dLDBd&dt=1743495846479&bpp=1&bdt=852&idt=1&shv=r20250327&mjsv=m202503260101&ptt=9&saldr=aa&abxe=1&cookie=ID%3Dd9464c5a60bfe897%3AT%3D1741687920%3ART%3D1743495844%3AS%3DALNI_MbUDudO-GAzBbQFTxplRyx9HgI4vg&gpic=UID%3D0000105d540e04e0%3AT%3D1741687920%3ART%3D1743495844%3AS%3DALNI_MaA6sqo9C__8lbLrNafsiEck2_w6g&eo_id_str=ID%3D23d59756e92b9a84%3AT%3D1741687920%3ART%3D1743495844%3AS%3DAA-AfjbS8-NPgM4JUpdwgVQQfAs1&prev_fmts=0x0%2C300x250%2C336x280%2C300x250%2C334x250%2C364x50%2C662x280&nras=5&correlator=2650410802637&frm=20&pv=1&u_tz=420&u_his=8&u_h=1080&u_w=1920&u_ah=1040&u_aw=1920&u_cd=24&u_sd=1&dmc=8&adx=425&ady=5389&biw=1905&bih=953&scr_x=0&scr_y=1625&eid=95355972%2C95355974%2C31090664%2C95356499%2C95356506%2C31091324%2C95356788%2C95356928&oid=2&pvsid=2974004214084014&tmod=1854575193&uas=0&nvt=1&ref=https%3A%2F%2Fwww.google.com%2F&fc=1408&brdim=0%2C0%2C0%2C0%2C1920%2C0%2C1920%2C1040%2C1920%2C953&vis=1&rsz=%7C%7Cs%7C&abl=NS&fu=128&bc=31&bz=1&td=1&tdf=2&psd=W251bGwsbnVsbCxudWxsLDNd&nt=1&pgls=CAEQBRoGMy4xOC4z&ifi=6&uci=a!6&btvi=6&fsb=1&dtd=867
ส่วนยอดขายของ Li Auto ยังคงทรงตัวจากสัปดาห์ก่อนหน้า ทำยอดขายได้ประมาณ 10,000 คันเท่าเดิม โดยรุ่น L9, L8 และ L7 ทำยอดขายได้รุ่นละ 3,000 คัน รวมยอดขายในเดือนพฤศจิกายนทำยอดขายรวม 25,400 คัน ต้องรอติดตามกันต่อไปว่า ในเดือนธันวาคมที่มีกำหนดวางขายรถ MPV ไฟฟ้ารุ่นใหม่อย่าง Li Mega จะช่วยกระตุ้นยอดขายเพิ่มขึ้นหรือไม่
https://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?gdpr=0&client=ca-pub-1553004308124680&output=html&h=280&adk=3065861061&adf=1463143438&pi=t.aa~a.2265784350~i.43~rp.4&w=662&abgtt=6&fwrn=4&fwrnh=100&lmt=1743199517&num_ads=1&rafmt=1&armr=3&sem=mc&pwprc=7499398984&ad_type=text_image&format=662×280&url=https%3A%2F%2Fev.iphonemod.net%2Fchina-nev-sales-weekly-grew-13-19-nov-2023%2F&fwr=0&pra=3&rh=166&rw=662&rpe=1&resp_fmts=3&wgl=1&fa=27&uach=WyJXaW5kb3dzIiwiMTAuMC4wIiwieDg2IiwiIiwiMTM0LjAuNjk5OC4xNzgiLG51bGwsMCxudWxsLCI2NCIsW1siQ2hyb21pdW0iLCIxMzQuMC42OTk4LjE3OCJdLFsiTm90OkEtQnJhbmQiLCIyNC4wLjAuMCJdLFsiR29vZ2xlIENocm9tZSIsIjEzNC4wLjY5OTguMTc4Il1dLDBd&dt=1743495846484&bpp=2&bdt=857&idt=2&shv=r20250327&mjsv=m202503260101&ptt=9&saldr=aa&abxe=1&cookie=ID%3Dd9464c5a60bfe897%3AT%3D1741687920%3ART%3D1743495844%3AS%3DALNI_MbUDudO-GAzBbQFTxplRyx9HgI4vg&gpic=UID%3D0000105d540e04e0%3AT%3D1741687920%3ART%3D1743495844%3AS%3DALNI_MaA6sqo9C__8lbLrNafsiEck2_w6g&eo_id_str=ID%3D23d59756e92b9a84%3AT%3D1741687920%3ART%3D1743495844%3AS%3DAA-AfjbS8-NPgM4JUpdwgVQQfAs1&prev_fmts=0x0%2C300x250%2C336x280%2C300x250%2C334x250%2C364x50%2C662x280%2C662x280&nras=6&correlator=2650410802637&frm=20&pv=1&u_tz=420&u_his=8&u_h=1080&u_w=1920&u_ah=1040&u_aw=1920&u_cd=24&u_sd=1&dmc=8&adx=425&ady=5977&biw=1905&bih=953&scr_x=0&scr_y=2240&eid=95355972%2C95355974%2C31090664%2C95356499%2C95356506%2C31091324%2C95356788%2C95356928&oid=2&pvsid=2974004214084014&tmod=1854575193&uas=0&nvt=1&ref=https%3A%2F%2Fwww.google.com%2F&fc=1408&brdim=0%2C0%2C0%2C0%2C1920%2C0%2C1920%2C1040%2C1920%2C953&vis=1&rsz=%7C%7Cs%7C&abl=NS&fu=128&bc=31&bz=1&td=1&tdf=2&psd=W251bGwsbnVsbCxudWxsLDNd&nt=1&pgls=CAEQBRoGMy4xOC4z&ifi=7&uci=a!7&btvi=7&fsb=1&dtd=1181
นอกจากนี้ ยังมีอีก 3 แบรนด์ที่ทำยอดขายเพิ่มขึ้นในจีนและควรจับตามอง ได้แก่ Leapmotor ทำยอดขายได้ 4,500 คัน เพิ่มขึ้น 12.5%, Aito แบรนด์จาก Huawei ทำยอดขายได้ 4,300 คัน เพิ่มขึ้น 10% และ Xpeng ทำยอดขายได้ 4,200 คัน เพิ่มขึ้น 13.51% ซึ่งแบรนด์เหล่านี้ได้
