คาวาลลิโน มอเตอร์ ผู้นำเข้าเฟอร์รารี่อย่างเป็นทางการ ในประเทศไทย ประกาศเปิดตัว Ferrari 296 GTB ซูเปอร์คาร์รุ่นล่าสุดที่สานตำนานความแรงแบบรถสปอร์ตเต็มพิกัด นิยามแห่งความสนุกในการขับขี่ที่รับประกันความเร้าใจอย่างแท้จริง ที่จะมาปฏิวัติการขับขี่ของม้าลำพองให้เร้าใจกว่าที่เคย ผ่านการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในรูปแบบดิจิทัล ถ่ายทอดสด Live Streaming เมื่อเร็ว ๆ นี้
“ในปีนี้ คาวาลลิโน มอเตอร์ ยังคงยึดรูปแบบการจัดงานเปิดตัวผ่านการถ่ายทอดสดเช่นเดิม โดยในช่วงสถาการณ์โควิดได้มีการปรับเปลี่ยนเป็นการเปิดรถผ่าน Live Streaming มาแล้วกว่า 6 รุ่นในช่วง 2 ปีที่ผ่าน และขอขอบคุณสำหรับกระแสตอบรับที่ดีมาก โดยมียอดผู้เข้าชมกว่าแสนวิว ไม่ใช่แค่เพียงลูกค้า แต่แฟนคลับม้าลำพองยังได้ชื่นชมการเปิดตัวรถไปพร้อม ๆ กัน” นันทมาลี ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการบริษัท คาวาลลิโน มอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า
ADVERTISEMENT
00:00/01:24
Truvid
“และในปีนี้คาวาลลิโน มอเตอร์ ได้นำความพิเศษของม้าลำพองรุ่นล่าสุดมาให้แฟน ๆ ชาวไทยได้ชื่นชม คือ เฟอร์รารี่ 296 GTB เป็น Road car รุ่นแรกภายใต้ตราสัญลักษณ์ม้าลำพอง ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ V6 ปลั๊ก-อินไฮบริด โดยที่มาของชื่อ 296 GTB มาจากการรวมตัวเลขความจุกระบอกสูบ (2,992 ซีซี) และจำนวนลูกสูบไว้ด้วยกัน ร่วมกับอักษร GTB (Gran Turismo Berlinetta) ตัวย่อของการสืบทอดตำนานที่ทรงพลังที่สุดของเฟอร์รารี่ เพื่อย้ำให้เห็นว่า เครื่องยนต์ตัวใหม่นี้คือ จุดเปลี่ยนแห่งยุคสำหรับมาราเนลโลผู้เปิดประตูไปสู่ยุคใหม่ของเครื่องยนต์ V6 ด้วยประสบการณ์มากกว่า 70 ปี ที่ไม่มีใครเทียบเคียงได้ในวงการมอเตอร์สปอร์ต”
ปฏิวัติขุมพลังม้าลำพองยุคใหม่ เปี่ยมด้วยสมรรถนะ และความประหยัด
296 GTB มาจากวิวัฒนาการล่าสุดของ Berlinetta (เบอร์ลิเนตต้า) สองที่นั่ง เครื่องยนต์วางกลางด้านหลัง พร้อมขุมพลังรูปแบบปลั๊ก-อิน ไฮบริดที่ให้กำลังสูงสุด 830 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 2.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 330 กม./ชม.
ด้วยเครื่องยนต์วางกลางด้านหลังรุ่นใหม่ คือการพลิกโฉมของเฟอร์รารี่อย่างแท้จริง ด้วยเครื่องยนต์ V6 ทำมุม 120 องศา ขนาด 663 แรงม้า จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้พลังเพิ่มเติมอีก 122 กิโลวัตต์ (167 แรงม้า) มอบสมรรถนะเหนือความคาดหมาย
ร่วมด้วยนวัตกรรมที่สร้างความเร้าใจในการขับขี่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และรับประกันได้ว่าระบบปลั๊ก-อิน ไฮบริด จะทำให้ 296 GTB เป็นรถที่ใช้งานได้ดีอย่างเหลือเชื่อ ทั้งการตอบสนองของคันเร่งแบบทันทีทันใด รวมถึงขับขี่ได้ไกล 25 กม. ด้วยระบบไฟฟ้าในโหมด eDrive
เรือนร่างอันโฉบเฉี่ยว ล้ำสมัย มีสไตล์ที่โดดเด่นเฉพาะตัว
Ferrari 296 GTB ได้รับการออกแบบโดย Ferrari Styling Center ที่ต้องการนิยามเอกลักษณ์ของรถแบบ Berlinetta สองที่นั่ง เครื่องวางกลางด้านหลัง ด้วยการทำให้มีขนาดกะทัดรัดเป็นพิเศษ
พร้อมรูปลักษณ์ที่สะท้อนความดั้งเดิมแบบต้นฉบับ ทว่าทันสมัยยิ่งขึ้น อาทิ โป่งล้อที่ดูกำยำ, เสาหลังคาที่แข็งแกร่ง และกระจกหลังแนวตั้งแบบใหม่ รูปแบบเหล่านี้สร้างภาพเงาแบบดั้งเดิมสะท้อนให้เห็นถึงสไตล์ในภาพรวมของรถ และไฟหน้า นำแรงบันดาลใจจากไฟ “ทรงหยดน้ำ” ในอดีตมาใช้ใน 296 GTB ซึ่งได้รับการตีความผ่าน “หยดน้ำตาแบบแฟริ่ง” สองอันที่วางอยู่ด้านหน้ารถราวกับอัญมณี เติมเต็มความสมบูรณ์แบบด้วย DRL ซึ่งทำหน้าที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญของด้านหน้ารถ
นอกจากนี้สไตล์ของท้ายรถ ถือเป็นความแตกต่างที่ชัดเจนจากดีไซน์ของรถคูเป้ของเฟอร์รารี่แบบดั้งเดิม โดยใช้สถาปัตยกรรมที่ให้ภาพลักษณ์เหมือนรถ Spider ที่มีความไม่ต่อเนื่องระหว่างหลังคาและฝาครอบเครื่องยนต์ด้านหลัง ทำให้ 296 GTB มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและเป็นที่จดจำได้ทันทีที่เห็น
ภายในเรียบล้ำ สร้างความเร้าใจเมื่อได้สตาร์ทรถ
จุดเด่นซึ่งเป็นที่รู้จักมากที่สุดอย่างหนึ่งของการออกแบบ 296 GTB คือห้องโดยสาร ซึ่งมีกระจกบังลมที่โค้งโอบล้อมไปถึงกระจกข้าง แบบเดียวกับที่เคยนำมาใช้ในเฟอร์รารี่แบบลิมิเต็ดเอดิชั่นหลายรุ่น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงขีดสุดของ Road Car รูปแบบด้านหน้าเชื่อมโยงต่อเนื่องอย่างเป็นธรรมชาติกับเสาหลังคาด้านหลัง พร้อมด้วยฝาท้ายแบบโปร่งใสที่เผยให้เห็นเครื่องยนต์ที่งดงาม
ทั้งยังยกระดับแนวคิดเรื่องความงดงามขององค์ประกอบฟังก์ชั่นต่าง ๆ ให้สูงขึ้นไปอีกขั้น เมื่อดับเครื่องยนต์หน้าจอในรถจะเป็นสีดำมืดสนิท ช่วยเติมภาพลักษณ์ที่เรียบง่ายให้กับห้องโดยสาร เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังอิตาเลียนสุดพิเศษ
และชิ้นส่วนของอุปกรณ์สำหรับการใช้งานใช้วัสดุที่ผลิตขึ้นด้วยเทคนิคขั้นสูง เมื่อแตะปุ่ม ‘Start Engine’ แบบสัมผัส ส่วนประกอบทั้งหมดจะค่อย ๆ เปล่งประกายขึ้นมา เผยให้เห็นความรุ่งโรจน์ทางเทคโนโลยีในรูปแบบของอินเทอร์เฟซที่ทันสมัย, ถูกหลักสรีรศาสตร์ และเป็นระบบดิจิตอลเต็มรูปแบบ หน้าจอหลักติดตั้งลึกลงไปในกรอบบนแดชบอร์ด โดดเด่นด้วยพื้นผิวที่จงใจให้ดูเรียบง่ายสะอาดตา
Ferrari 296 GTB พร้อมให้คุณได้เป็นเจ้าของแล้วในราคาเริ่มต้นที่ 21,900,000 บาท
พร้อม Warranty การรับประกันฟรี 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง สามารถต่ออายุได้ถึง 15 ปี การรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริดฟรี 5 ปี การดูแลบำรุงรักษาฟรี 7 ปี และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง โดยบริการจากทีมช่างผู้ชำนาญการด้วยเครื่องมือตามมาตรฐานจากโรงงานเฟอร์รารี่ เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าที่ต้องการรักษาประสิทธิภาพและความเป็นเลิศ อันเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์ทุกคันที่สร้างขึ้นจากโรงงานในมาราเนลโล ประเทศอิตาลี
