นับตั้งแต่ Ford Ranger เจเนอเรชันที่ 4 เมื่อปี 2022 ได้รับการตอบรับอย่างดีจากสาวกฟอร์ดมานานกลายเป็นกระบะพรีเมียมที่มียอดขายสูงในไทย
สามารถครองตำแหน่งรถที่มียอดขายดีที่สุดอันดับ 3 ทั้งในเซ็กเมนต์กระบะและ PPV ได้อย่างเหนียวแน่น ด้วยยอดขายรวมทั้ง Ford Ranger และ Ford Everest ช่วงครึ่งปีแรกของปี 2024 รวม 11,282 คัน รักษาตำแหน่งอันดับ 1 ในตลาดรถกระบะขับเคลื่อน 4 ล้อด้วยส่วนแบ่งตลาด 29% และยังเป็นอันดับ 1 ในตลาดรถกระบะ 4×4 แบบสี่ประตู ด้วยส่วนแบ่งตลาด 37% โดยครึ่งปีแรก Ranger ทำได้ 7,019 คันซึ่งส่วนหนึ่งมาจากน้องใหม่ที่เปิดตัวต้นปีกับ Ford Ranger WILDTRAK V6 และอีกทางเลือกของตระกูล Raptor กับ Ford Ranger Raptor Diesel มา Face2Face กัน
Design & Exterior
Ford Ranger รหัส T6.3 ทั้ง Ford Ranger WILDTRAK V6 และ Ford Ranger Raptor Diesel พื้นฐานเดียวกันแต่ความหล่อสไตล์ใครสไตล์มันเริ่มที่รุ่น WILDTRAK V6 ภาพรวมเหมือนรุ่นเทอร์โบคู่ 2.0 แต่เมื่อมาเป็นรุ่น V6 สิ่งที่เปลี่ยนไปเริ่มที่ ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว 6 ก้านทูโทนลายเดียวกันกับ Everest WILDTRAK พร้อมยางขนาด255/55 R20 จาก Goodyear รุ่น Territory HT ช่องระบายอากาศสีดำพร้อมตัวอักษร V6 ในชุดบังโคลนหน้าซ้าย-ขวา ติดตั้งระบบไฟส่องสว่างแบบแบ่งโซน (Zone Lighting) รอบคัน
นอกนั้นเหมือนรุ่น WILDTRAK เทอร์โบคู่ทั้ง ไฟหน้า Matrix LED กระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมแบบสีดำเงา แผ่นกันกระแทกใต้ห้องเครื่อง คิ้วช่องระบายอากาศสีเงิน บันไดข้างอะลูมีเนียมสีดำ บันไดเหยียบข้างกระบะท้ายบริเวณด้านหลังล้อหลัง ไฟท้าย LED แนวตั้งสวยงามราวหลังคาและสปอร์ตบาร์ดีไซน์เอกลกัษณ์ กระบะท้ายเปิดปิดง่ายแบบช่วยผ่อนแรง Easy Lift (Easy Lift Tailgate)
ภายในกระบะท้ายมีช่องจ่ายไฟในกระบะท้ายที่มาพร้อมช่องต่อไฟแบบ AC รองรับกำลังไฟถึง 400 วัตต์ ให้คุณใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าอย่าง หม้อหุงข้าว หรือเตาอบขนาดเล็กได้ง่ายๆ เพียงเสียบปลั๊กกับตัวรถ
ทางด้าน Ford Ranger Raptor Diesel เหมือนรุ่นเบนซิน V6 ตั้งแต่ไฟหน้าใหม่รูปตัว C แบบ Matrix LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน Daytime running lights แบบ LED เพิ่มประสิทธิภาพส่องสว่างมากขึ้น ตัวอักษร F-O-R-D ขนาดใหญ่บนกระจังหน้า กันชนที่เป็นอิสระ โดดเด่นด้วยไฟเลี้ยวแบบไดนามิก ไฟสูงแบบตัดแสงปรับระดับแสงแบบอัตโนมัติเพื่อให้แสงสว่างที่ปลอดภัยต่อผู้ขับขี่ เท่และดุดันภายใต้ซุ้มล้อสีเทาเข้มสะดุดตา ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง Performance All-Terrain BFGoodrich K02 High T285/70 R17
ช่องลมข้างบังโคลนสีเทาเข้มมีประโยชน์ด้านอากาศพลศาสตร์นอกจากความสวยงาม บันไดข้างดีไซน์ใหม่ทำจากอะลูมิเนียมที่แข็งแรง ด้านหลังใช้ไฟท้าย LED กันชนหลังสีเทาเข้มมีบันไดเหยียบเพื่อขึ้นกระบะท้าย และชุดลากในตัวที่ติดตั้งในตำแหน่งสูงเพื่อเพิ่มมุมจาก กล้องรอบคัน 360 องศา กระบะท้ายเปิดปิดง่ายแบบช่วยผ่อนแรง Easy Lift (Easy Lift Tailgate) มีช่องจ่ายไฟในกระบะท้ายที่มาพร้อมช่องต่อไฟแบบ AC 400 วัตต์ ภายในกระบะท้ายแต่ไม่มีท่อไอเสียคู่เป็นแค่ด้านเดียว
Dimension
ทั้ง 2 รุ่น มีขนาดต่างกันถึงแม้จะใช้พื้นฐานเหมือนกันเริ่มที่ Ford Ranger WILDTRAK V6 ตั้งแต่
- ความยาว 5,370 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,918 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,884 มิลลิเมตร
- ฐานล้อ 3,270 มิลลิเมตร
- ความสูงใต้ท้องรถ 235 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 2,388 กิโลกรัม
- ความจุถังน้ำมัน 80 ลิตร
- ส่วนท้ายพื้นที่ใช้งานตั้งแต่ความยาว 1,564 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,584 มิลลิเมตร และความสูง 540 มิลลิเมตร
Ford Ranger Raptor Diesel ตัวรถใหญ่ชึ้นด้วย
- ความยาว 5,360 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 2,028 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,926 มิลลิเมตร
- ฐานล้อ 3,270 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 2,510 กิโลกรัม
- ระยะต่ำสุดจากพื้น 272 มิลลิเมตร
- ความจุถังน้ำมัน 80 ลิตร
Interior & Convenience
รุ่น WILDTRAK V6 เน้นเข้มด้วยโทนสีดำ สีส้มเริ่มที่สัญลักษณ์ WILDTRAK คอนโซลหน้าหุ้มหนังสัมผัส ชุดเบาะนั่งกึ่งหนังแท้ดำ และ บริเวณฝาเปิดบนชุดคอนโซลหน้าแบบหุ้มหนัง เดินด้ายส้ม เบาะนั่งปรับไฟฟ้าคู่หน้าได้ถึง 8 ทิศทาง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านคู่หุ้มหนัง หน้าจอสัมผัสแนวตั้งแสดงผลจอสีแบบสัมผัส Multi-Touch ขนาด 12 นิ้ว พร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC® 4A รองรับ Wireless Apple CarPlay® Android Auto™ เชื่อมต่อบลูทูธ พร้อมระบบ FordPass ช่องต่อ USB 4 จุด พร้อมลำโพง 6 ทิศทาง
มาตรวัดดิจิทัลแบบสีขนาดเล็ก 8 นิ้ว ช่องต่อไฟ 12V พร้อมช่องต่อไฟ 230V (400W) เบรกมือไฟฟ้าพร้อมระบบเบรครถอัตโนมัติชั่วคราว Auto Hold และครั้งแรกกับเกียร์อัตโนมัติแบบ E-Shifter หุ้มหนัง แท่นชาร์จไร้สาย กุญแจรีโมทอัจฉริยะพร้อมปุ่มสตาร์ทรถอัตโนมัติ ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวาและปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติพร้อมช่องต่อ USB เพิ่ม ระบบไฟส่องสว่างแบบแบ่งโซน (Zone Lighting) ควบคุมการเปิดไฟส่องสว่างภายนอกตัวรถเมื่อต้องการแสงสว่างในการทำกิจกรรมต่างๆ ในตอนกลางคืน