รีวิว Mercedes Benz C 350 e ดีไหม โดย เบนซ์ ซี-คลาส ปลั๊ก-อินไฮบริด รุ่นปี 2022 นำทุกปัญหาที่เคยเจอจาก W205 มาพัฒนาจนลงตัว ทั้งด้านสมรรถนะการขับขี่ การใช้งานฟังก์ชันต่างๆ รวมถึงระยะทางวิ่งในโหมด EV ที่ทำได้ถึง 100 กม.
ก่อนจะมีโอกาส รีวิว Mercedes Benz C 350 e ครั้งแรกที่เห็นราคา เบนซ์ ซี-คลาส ปลั๊ก-อินไฮบริด รุ่นประกอบในประเทศที่กระโดดไปถึง 3.35 ล้านบาท ก็อุทาน เฮ้ย! ในใจว่า ทำไมสูงกว่าทั้งคู่แข่ง BMW 330 e ที่ CKD เหมือนกัน และเพิ่งเปิดตัวรุ่นไมเนอร์เชนจ์ในระยะเวลาใกล้เคียงกัน ซึ่งขายอยู่คันละ 2.9 ล้านกว่าบาท
ขณะเดียวกันถ้าเทียบกับรุ่น C 220 d เครื่องยนต์ดีเซล แล้ว C-Class ปลั๊ก-อินไฮบริด ยังราคาสูงกว่าถึง 7.6 แสนบาท (ล่าสุด C 220 d ขยับขึ้นราคาเป็น 2.73 ล้านบาท ทำให้ระยะห่างเหลือ 6.2 แสนบาท)
แต่พอมานั่งดูรายละเอียด พิจารณาแนวทางการพัฒนาระบบขับเคลื่อนที่นำมาใช้ รวมถึงฟังก์ชันต่างๆ ที่ติดมากับรถ ก็ทำให้หายตกใจ และยิ่งหายสงสัยเมื่อได้ทดลองขับจริงๆ และทำ รีวิว Benz C 350 e
ใครยังมึนๆ กับระบบไฮบริด, ปลั๊ก-อินไฮบริด ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ นำมาใช้กับ C-Class W205 หรือนับตั้งแต่ C 300 BlueTec Hybrid ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า (เสียบปลั๊กชาร์จไฟไม่ได้) และก่อนเฟซลิฟท์ยังทำรุ่นปลั๊ก-อินไฮบริด C 350 e ให้คนที่ซื้อไปก่อนนี้ชํ้าใจเล่น ด้วยอัตราเร่งที่ดีกว่า ทั้งยังวิ่ง ในโหมด EV ได้ 31 กม. จากแบตเตอรี่ 6.3 kWh
จากนั้น C-Class W205 รุ่นเฟซลิฟท์ พัฒนาระบบไฮบริดขึ้นไปอีกขึ้น โดยนับเป็นเจเนอเรชันที่ 3 และวิ่งในโหมด EV ได้ไกลขึ้นเป็น 50 กม. จากแบตเตอรี่ 13.5 kWh พร้อมพละกำลังที่โหดสุดๆ (ถ้าคิดว่าเป็น ซี-คลาส รถบ้านรุ่นปกติ) คือ 320 แรงม้า แรงบิด 700 นิวตัน-เมตร
จะเห็นว่าการเดินทางของ เทคโนโลยีไฮบริด เมอร์เซเดส-เบนซ์ ก็ยังไม่รู้จะทำแบบไหนให้ถูกใจพี่ละครับ แรงเท่าไหร่พอ แบตเตอรี่ขนาดไหนดี รวมถึงการวางเลย์เอ้าท์ระบบขับเคลื่อน ที่ยังมีข้อจำกัดจากพื้นฐานของรถ ICE
เมื่อเป็น C-Class W206 รุ่นปลั๊ก-อินไฮบริด ผมว่าเขาได้ประโยชน์จากการที่บริษัททำ EV เพียวๆ ขาย จึงมีดาต้า และองค์ความรู้ที่เพิ่มขึ้นมาเป็นออพชันในการตัดสินใจจนพัฒนา C 350 e ออกมาได้อย่างลงตัวขึ้น
เรียกว่าไฮบริดเจน 2 เจน 3 ยังขี่ๆ กัน แต่พอเป็นเจน 4 ยกระดับขึ้นไปไกล ทั้งความเนียนในการขับขี่ การใช้พลังงานไฟฟ้ามาช่วยขับเคลื่อนมากขึ้น และวิ่งในโหมด EV ไกล แถมรองรับการชาร์จแบบตรง DC เสียด้วย (ออนบอร์ด 55 kW ส่วน AC 11 kW)
รีวิว Benz C 350 e มากับเครื่องยนต์เบนซินบล็อกใหม่ M254 ขนาด 2.0 ลิตร ประสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า แต่แรงม้า แรงบิด รวมลดลงเล็กน้อยจาก C 300 e (W205) เป็น 313 แรงม้า และแรงบิด 550 นิวตัน-เมตร อัตราเร่งช้าลงเป็น 6.1 วินาที (และช้าว่า BMW 330 e ที่ทำได้ 5.8 วินาที)
…แต่ “ฮัลโล” ทุกคนครับ นี่มันคือ ซี-คลาส รถบ้านนะครับ จะเอาแรงแบบวัวตาย ควายล้มไปทำไมกันเยอะแยะ ซึ่งประสิทธิผลที่ได้มาจากระบบขับเคลื่อนชุดนี้ ผมว่าเหลือกินเหลือใช้แล้ว
การลองขับ ถ้าเหยียบคันเร่งนํ้าหนักปกติ รถก็ตอบสนองดีทุกย่านความเร็วอยู่แล้ว แต่ถ้าต้องการรีดม้าทั้งคอก (เครื่องยนต์บวกมอเตอร์ไฟฟ้า) ให้ลงสู่ล้อหลังเร็วๆ ก็เพิ่มนํ้าหนักเท้าลงไปอีก (แป้นคันเร่งจะมีการต้านเท้าอยู่ระดับหนึ่ง คนขับต้องกดนํ้าหนักให้เลยจุดนี้ไป) รถจะพุ่งแหวกอากาศไปได้อย่างรวดเร็ว ราวกับการวาร์ปของยาน Enterprise ใน Strar Trek ละครับ
รีวิว Benz C 350 e เร่งดี แรงเร้าใจขนาดนี้ (มาเต็มตอนกดคันเร่งหนักๆ) แต่อย่าลืมว่า ไฮบริดเจเนอเรชันที่ 4 ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุมากขึ้นเป็น 25.4 kWh โดยหวังให้ รถวิ่งในโหมด EV ได้ระยะทางเกิน 100 กม. หรือเคลมตัวเลขไว้สูงสุดตามมาตรฐาน WLTP ที่ 113 กม. แต่ต้องแลกด้วยการแบกนํ้าหนักแบตเตอรี่ชุดนี้อีก 221 กิโลกรัมไว้ที่ด้านท้าย
