• Movie 187
  • Movie 66
  • Sample Page
  • รีวิวหนังดี 294 – P1
  • รีวิวหนังดี 294 – P2
  • รีวิวหนังดี 294 – P3
reviewfilm.dailync91news.live
No Result
View All Result
No Result
View All Result
reviewfilm.dailync91news.live
No Result
View All Result

N0805004_CEO บังเอิญไปหลงรักสาวที่เพิ่งลงมาจากภูเขา_part2

admin79 by admin79
May 5, 2025
in Uncategorized
0
N0805004_CEO บังเอิญไปหลงรักสาวที่เพิ่งลงมาจากภูเขา_part2

สายการบิน Turkish Airline เที่ยวบินที่ TK069 นำผม พี่ๆสื่อมวลชนสายรถยนต์ อีก 3 ท่าน และ พี่ฝน ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ Mercedes-Benz (Thailand) เดินทางออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ มาถึงสนามบิน Istanbul เพื่อเปลี่ยนเป็นเครื่องบิน Airbus 321-200 เที่ยวบิน TK1305 ของสายการบินเดียวกัน ฝ่าสายฝนและเมฆครื้ม รอนลงจอด ณ สนามบิน Malaga ที่ประเทศ Spain ตอนเที่ยงของวันที่ 22 พฤศจิกายน 2019 กันเสียที พร้อมกับผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง ได้อย่างรวดเร็วฉับไวที่สุด เท่าที่ผมเคยเดินทางเข้าหลายๆประเทศในยุโรป ตลอดช่วง 5 ปีที่ผ่านมา….

สนามบินในประเทศ ผู้คนเข้า-ออก ปานกลาง ไม่ได้เยอะนัก ความเข้มงวดของเจ้าหน้าที่จึงไม่มากนัก เจ้าหน้าที่ ตรวจคนเข้าเมือง สาววัยรุ่น เค้าเห็นว่า คนเยอะ ก็เลย รับ Passport เราไป แล้วก็รีบประทับตรา ส่งคืนให้ โดยไม่ถงไม่ถามอะไรเลยซ้ากกกคำ!!

ถ้าทุกสนามบินในยุโรป เป็นอย่างนี้เหมือนกันหมดได้ ก็ดีสิ! แต่ในความเป็นจริง มันไม่ได้เป็นเช่นนั้นหรอก

Spain เป็นประเทศ ที่ผู้ผลิตรถยนต์ฝั่งยุโรป ส่วนใหญ่ นิยมใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมทดลองขับรถยนต์ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ล่าสุด ให้กับบรรดาสื่อมวลชนจากทั่วโลก ทั้ง Mercedes-Benz BMW Audi หรือแม้แต่ฝั่งญี่ปุ่น อย่าง Toyota / Lexus ก็เคยใช้บริการ Spain มาแล้ว ต่อให้ประเทศนี้ จะยังมีความคุกรุ่นทางการเมือง ในประเด็นการแบ่งแยกดินแดน Catalanya ของชาว Catalun แต่ในส่วนอื่นๆของประเทศ ก็ยังมีมนต์เสน่ห์ในค้นหา รอให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมบรรยากาศ และพักผ่อนหย่อนใจกันอยู่ดี

นี่เป็นครั้งที่ 3 ในชีวิตผม สำหรับการเดินทางมายังประเทศ Spain ดินแดนกระทิงดุ เพียงแต่ว่า คราวนี้ เรามุ่งหน้าลงมายังตอนใต้สุดของประเทศ ณ เมือง Malaga อันเป็นเมืองท่องเที่ยวตากอากาศริมชายหาดทะเล Mediteranian ของแคว้น Andalucia ซึ่งมีบรรยากาศแตกต่างไปจาก Barcelona หรือ Madrid โดยสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็น บรรยากาศอันน่าตื่นตาตื่นใจในความสวยงาม ของทั้งตึกรามบ้านช่อง ที่ตั้งอยู่ตามแนวภูเขา ไปจนถึงบรรยากาศจากแสงแดดที่สาดส่องเข้ามา ทั้งยามเช้าและยามบ่าย

แม้ว่าฝนฟ้าจะโปรยปราย ต้อนรับเรา กันตั้งแต่สนามบิน จนหมดสิทธิ์เดินทางออกไปเที่ยวเล่นในตัวเมือง ทำได้แค่เดินไปกินมื้อเที่ยง ที่ร้านอาหาร Beluga ใกล้ๆๅกับโรงแรมที่พัก (Vincci Hotel Posada) แล้วก็พักผ่อน เตรียมงาน รอทานมื้อเย็น ก่อนจะเข้านอน เพื่อรอทาง Mercedes-Benz ส่ง V-Class Shuttle Bus มารับเราในเช้าวันรุ่งขึ้น (24 พฤศจิกายน 2019) จากโรงแรม กลับไปยังสนามบิน Malaga อีกครั้ง เพื่อไปรวมตัวกัน ณ จุดปล่อยรถทดสอบ

เรามาที่นี่ เพื่อร่วมสัมผัสกับผลงานล่าสุดของผู้ผลิตรถยนต์ตราดาว จากเมือง Stuttgart สหพันธรัฐเยอรมนี อีกรุ่นหนึ่งที่กำลังจะถูกส่งเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย ภายในปี 2020 นี้ ภายใต้เรือนร่างแบบ SUV ขนาด Compact 5 หรือ 7 ที่นั่ง ตระกูลใหม่ ที่ถูกเรียกว่า…

Mercedes-Benz GLB…

ทำไมต้องมี GLB ?

คำตอบง่ายมากครับ ตลาด SUV และ Crossover SUV ที่บูมต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 1995 มันยังไม่มีทีท่าว่าจะชะลอตัวลงง่ายๆ มันจะเป็นอย่างนี้ไปอีกหลายปี และเหตุการณ์นี้ มันก็เกิดขึ้นกับ Mercedes-Benz ด้วย ทั่วโลก

Ms. Britta Seeger, Member of the Board of Management of Daimler AG ก็ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “รถยนต์ SUV และรถยนต์ขนาดเล็ก (Compact model) เป็นกลุ่มตลาดที่สำคัญของเรา ปัจจุบันนี้ ยอดขาย 3 ใน 10 คัน ของรถยนต์ Mercedes-Benz ที่ขายได้ทั่วโลก เป็น SUV ไม่เพียงเท่านั้น ทุกๆ 4 ใน 10 คัน ที่เราจำหน่ายออกไป เป็นรถยนต์กลุ่ม Compact”

ในอดีตที่ผ่านมา Mercedes-Benz ก็พยายามออกรถยนต์ SUV ให้ครอบคลุมทุกความต้องการ เริ่มต้นจาก G-Class ซึ่งเป็น SUV รุ่นบุกเบิกของค่ายตราดาว ที่ได้รับความนิยมในหมู่เศรษฐี และบรรดา Professional ในวิชาชีพต่างๆ มาตั้งแต่ปี 1979 มาจนถึงทุกวันนี้ ส่วน SUV ยุคใหม่รุ่นแรกของ ค่ายตราดาว รุ่นแรกคือ M-Class เปิดตัวมาตั้งแต่ 9 พฤษภาคม 1997 และเป็นต้นกำเนิดในการแต่หน่อขยายสายพันธ์ตระกูล SUV ของ Mercedes-Benz มาจนถึงปัจจุบัน ไล่กันตั้งแต่รุ่นเล็กสุด GLA (ซึ่งก็คือการเอา A-Class 5 ประตู มายกสูง และดัดแปลงหน้าตานิดหน่อย) GLC / GLC Coupe , GLE / GLE Coupe , GLS และ G-Class

สังเกตไหมครับ ว่ามันมีอะไรที่หายไป? อะไรที่ยังเป็นช่องว่างตรงกลางอยู่

GLB ยังไงละ!

อันที่จริง Mercedes-Benz เคยทำ SUV ในพิกัดขนาดตัวรถแบบเดียวกับ GLB มาก่อน นั่นคือ Mercedes-Benz GLK สร้างขึ้นบนโครงสร้างพื้นตัวถังและงานวิศวกรรมของ รถเก๋ง รุ่น C-Class W204 ออกสู่ตลาดครั้งแรก ในยุโรป เมื่อ 30 มิถุนายน 2008 ด้วยยอดขายที่มีแนวโน้มว่าจะเติบโตขึ้น Mercedes-Benz จึงตัดสินใจ ทำรุ่นเปลี่ยนโฉม Full Modelchange ออกมาเป็นเจเนอเรชันที่ 2 ในปี 2015 โดยยกระดับขนาดตัวถังให้ใหญ่โตขึ้น เพื่อฟัดเหวี่ยงกับ BMW X3 ได้ดีขึ้น และเปลี่ยนชื่อเป็น Mercedes-Benz GLC Class

อย่างไรก็ตาม ยังมีลูกค้ากลุ่มใหญ่ ที่มีงบไม่มาก แต่อยากได้ SUV ตราดาว ที่มีพื้นที่ใช้สอย และความอเนกประสงค์ ไม่แพ้ GLC Class ดังนั้น GLB จึงเป็นรถยนต์ ที่ค่ายตราดาว เขาคาดหวังว่าจะเข้ามาเสริมทัพ เติมเต็มความต้องการของลูกค้า กลุ่มครอบครัว ถึงขั้นตั้งสโลแกนว่า “For Family and Friends”

แล้ว GLB จะไม่ไปทับซ้อนกับ GLA และ GLC หรือ?

Ms. Britta Seeger ตอบว่า “ในอนาคต นับจากนี้ Mercedes-Benz จะทำตลาดรถยนต์ขนาดเล็ก (Compact) รวมทั้งหมดถึง 8 รุ่น โดย GLA (ซึ่งเพิ่งเปิดตัวรุ่นเปลี่ยนโฉมใหม่ Full Modelchange ไปหมดๆ เมื่อ 11 ธันวาคม 2019 ที่ผ่านมา) จะถูกวางตำแหน่งทางการตลาด เน้นไปหากลุ่มลูกค้าแนว “lifestyle-oriented” เหมือนเดิม ขณะที่ GLB จะเน้นทำตลาดกับกลุมลูกค้าที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยอเนกประสงค์ จากรถยนต์ SUV ขนาดเล็ก”

ส่วน GLC / GLC Coupe นั้น นอกจากจะแตกต่างจาก GLB ด้วยความยาวตัวถังที่มากกว่าแล้ว ตำแหน่งการตลาดของ ทั้งคู่ ยังจัดอยู่ในกลุ่มสูงกว่า คือ Midsize SUV ซึ่งลูกค้า กลุ่มนี้ มองหาการขับขี่ที่นุ่มนวลกว่า และให้ความภูมิฐานสมฐานะมากขึ้น อีกทั้งในอีกไม่นานหลังจากนี้ GLC / GLC Coupe จะมีขุมพลัง V6 สูบ กลับมาให้เลือกอีกครั้ง!

พูดให้เข้าใจง่ายๆคือ

  1. GLB ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อขั้นกลางระหว่าง GLA กับ GLC
  2. ถ้า GLA คือ GLC Coupe (หรือ BMW X2) แล้ว GLB ก็คือ GLC ตัวถังปกติ (หรือ BMW X1) นั่นเอง
  3. คู่แข่งทางการตลาดโดยตรง ของ GLB คือ BMW X1

ก่อนการเปิดตัวเพียงไม่กี่เดือน Mercedes-Benz ก็เปิดเผยให้ชาวโลกได้รับรู้ถึงการมาของ GLB ด้วยการนำรถยนต์เวอร์ชันต้นแบบ Mercedes-Benz Concept GLB ออกอวดโฉมสู่สายตาชาวโลกเป็นครั้งแรก เมื่อ 15 เมษายน 2019 ที่ผ่านมา บนเวทีในงาน Auto Shanghai 2019

จากนั้น เวอร์ชันจำหน่ายจริง ก็เปิดตัวสู่สาธารณชนเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2019 ที่เมือง Wanship มลรัฐ Utah สหรัฐอเมริกา แต่กว่าจะพร้อมออกสู่ตลาด ก็ต้องรอกันอีกนานถึง 5 เดือน เพื่อทำการทดสอบและยื่นเรื่องอนุมัติด้านมาตรฐานมลพิษตามข้อกำหนดใหม่ WLTP ของสหภาพยุโรป เตรียมเอกสาร เตรียมการด้านต่างๆ รวมทั้งรอให้โรงงาน Aguascalientes ใน Mexico เตรียมสายการผลิตของ GLB ให้พร้อมสำหรับป้อนรถยนต์สู่โชว์รูมทั่วโลกให้เรียบร้อยเสียก่อน

นอกจากโรงงานใน Mexico แล้ว ฐานผลิตสำคัญของ GLB อีกแห่ง คือโรงงาน Beijing Benz Automotive Co., Ltd ใน Beijing ซึ่งจะผลิต GLB เวอร์ชันสำหรับตลาดเมืองจีน (Chinese market) โดยเฉพาะ ทั้ง 2 โรงงาน จะเริ่มผลิต GLB ออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2019 นี้ เป็นต้นไป

Photo :
– GLB 250d 4MATIC in White (Not Available in Thailand)
– GLC 220 d in Blue & Red (Not Available in Thailand)
– GLC 200 in Grey (Specification close to Thai version)

GLB มีขนาดตัวถังยาว 4,634 มิลลิเมตร กว้าง 1,843 มิลลิเมตร สูง 1,658 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อยาว 2,829 มิลลิเมตร ความกว้างช่วงล้อหน้า 1,605 มิลลิเมตร ความกว้างช่วงล้อหลัง 1,606 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุดจากพื้น (Ground Clearance) 143 มิลลิเมตร มุมไต่ 18 องศา (องศาจากพื้นบริเวณหน้ายางเงยขึ้นไปหาส่วนยื่นที่สุดของหน้ารถ) มุมจาก 18.3 องศา (องศาจากพื้นบริเวณหน้ายางไปสู่จุดที่ยื่นมากที่สุดของตัวถังด้านหลัง) มุม Brake Over 13.9 องศา (องศาจากบริเวณหน้ายางขึ้นไปหาจุดกึ่งกลางของระยะฐานล้อ) และมุมเอียง 35 องศา น้ำหนักรถเปล่า มีตั้งแต่ 1,555 – 1,735 กิโลกรัม ตามแต่ละรุ่นย่อย แต่ถ้ารวมน้ำหนักบรรทุก จะอยู่ในช่วงไม่เกิน 2,000 กิโลกรัม

รูปลักษณ์ภายนอกถูกออกแบบมาในแนวรถยนต์ Off-Road เน้นความแข็งแกร่ง บึกบึน เส้นสายบนตัวถังที่ไม่จำเป็น ถูกตัดออกไป คงเหลือไว้แต่ความเรียบง่าย ไม่มีพิธีรีตรองอะไรมากนัก นอกจากนี้ ยังมีการปรับลดระยะ Overhang (มุมองศาระยะห่างระหว่างยางรถ จนถึงปลายมุมกันชน) ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เพื่อเพิ่มมุมองศาสำหรับปีนป่ายอุปสรรคให้มากขึ้น

ชุดโคมไฟหน้าเป็นแบบอัตโนมัติ MULTIBEAM LED และไฟ Daytime Running Light แบบ LED รวมอยู่ในชุดกรอบไฟหน้า พร้อมระบบ Adaptive High-beam Assist Plus ซึ่งจะตอบสนองต่อสภาพการจราจรอย่างรวดเร็ว และแม่นยำด้วยการทำงานแยกกันอย่างอิสระของหลอด LED ส่องสว่างได้ไกลถึง 500 เมตร นอกจากนั้นยังมีไฟตัดหมอกด้านหน้าแบบ LED ติดตั้งบริเวณกันชนหน้ามาให้ด้วย

ด้านท้ายมาพร้อมไฟท้าย LED ไฟตัดหมอกหลัง สปอยเลอร์หลัง พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED และติดตั้งฝาท้ายเปิด – ปิด ด้วยระบบไฟฟ้าแบบ EASY-PACK Tailgate มาให้

สำหรับรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC จะมาพร้อมกับ Off-Road Engineering Package ซึ่งประกอบไปด้วย ไฟหน้า MULTIBEAM LED ที่มีฟังก์ชันการทำงานพิเศษ สำหรับการขับขี่แบบ Off-Road เพื่อให้ง่ายต่อการมองเห็นอุปสรรค ในที่มืด พร้อมไฟส่องสว่างบริเวณมุมกันชนด้านหน้า ที่ความเร็วต่ำกว่า 50 กิโลเมตร/ชั่วโมง รวมไปถึงจอแสดงผล จำลองภาพมุมเอียงของตัวรถ และการปรับตั้งค่าทางเทคนิคต่างๆ

Option ที่น่าสนใจ ได้แก่ หลังคา Panoramic Sunroof สามารถปรับความลาดเอียงได้ 3 ระดับ ให้สัมพันธ์กับความเร็วรถ พร้อมม่านบังแดดแบบไฟฟ้า และระบบปิดอัตโนมัติ ทำงานร่วมกับเซนเซอร์ปัดน้ำฝน (Automatic Rain Sensor) ส่วน ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว x 6.5 J พร้อมยาง 215/65 R17 มีมาให้เป็นมาตรฐานในทุกรุ่น มีให้เลือกหลากสีหลายลวดลาย รวมทั้ง สีดำ แบบ AMG

ส่วนรุ่นสูงสุด Top สุด แรงสุด และแพงสุด มาในชื่อ Mercedes-AMG GLB 35 AMG 4MATIC แน่นอนว่า นี่เป็นอีกวิธีการที่จะเพิ่มทางเลือกให้กับกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการเฉพาะเจาะจง ว่าอยากได้สมรรถนะและความแรงตามแบบฉบับของ AMG แต่มีศรีภรรยา ยืนท้าวสะเอวกำกับการเลือกซื้อรถคันใหม่เข้าบ้านอยู่ด้านหลัง ให้เสียวเล่น ดูเหมือนว่า วิศวกรชาวเยอรมัน เขาคงประสบปัญหาเดียวกัน ก็เลยตัดสินใจทำเวอร์ชันร้อนแรง ให้กับ SUV ซึ่งไม่ได้มีหน้าตาชวนให้เกิดความร้อนแรงในใจเท่าไหร่ อย่าง GLB คันนี้ เผื่อว่า คุณแม่ของลูกที่บ้าน เขาจะได้เห็นประโยชน์ ยอมอ่อนใจ อนุมติให้คุณถอย GLB ออกมาซิ่งไปรับไปส่งลูกหลานไปโรงเรียนได้นั่นเอง

Mercedes-AMG GLB 35 AMG 4MATIC จะได้รับการตกแต่งให้ ดูสปอร์ต และดุดันขึ้น จากรุ่นปกติ หลายจุด เริ่มจาก การเปลี่ยนชุดกระจังหน้ามาเป็นแนวตั้งแบบ Panamericana grill  ลิ้นกันชนหน้าแบบ Silver chrome ระบบห้ามล้อประสิทธิภาพสูง พร้อมคาลิเปอร์เบรกคู่หน้าสีเงิน สลักสัญลักษณ์ AMG สีดำ สวมทับด้วย ล้ออัลลอยน้ำหนักเบา มีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 19 – 21 นิ้ว แต่ละขนาดมีให้เลือก 2 สี เปลือกกันชนด้านหลังพร้อมปลายท่อไอเสียทรงกลม 2 ฝั่ง และสปอยเลอร์หลังสีเดียวกับตัวรถ คาดด้วยสีดำเงา

การเข้า – ออกจากบานประตูคู่หน้า กลายเป็นจุดเด่นของ GLB ที่ได้รับการปรับปรุงจาก GLA กันเสียที เพราะการออกแบบตัวรถให้มีลักษณะเป็นทรงกล่อง แบบ SUV แท้ๆ ทำให้กระจกบังลมหน้า ตั้งชันขึ้นมามากกว่า GLA ทำให้ช่องประตูคู่หน้า มีขนาดใหญ่กว่า GLA จึงช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร เข้า – ออกได้สะดวกสบายขึ้น ยิ่งเจอตำแหน่งของเบาะนั่งที่อยู่ในระดับเหมาะสม ไม่สูงไม่เตี้ยจนเกินไป ทำให้ยิ่งง่ายต่อการก้าวขาขึ้นรถ แล้วหย่อนก้นลงนั่งได้ทันที

ไม่เพียงเท่านั้น บานประตูทั้ง 4 ถูกออกแบบมาให้มีชายล่างซ่อนรูป คลุมไปจนถึงใต้ท้องรถ ช่วยลดปัญหาคราบฝุ่นโคลน ติดขากางเกงหรือกระโปรง ขณะก้าวขึ้นลงจากรถ และป้องกันไม่ให้ก้อนหินกระเด็นขึ้นมากระแทกด้านข้างตัวรถ นีคือสิ่งที่ผมอยากเห็นจากผู้ผลิตรถยนต์ Premium จากเยอรมนีเสียที และดีใจที่ Mercedes-Benz ยอมแก้ข้อด้อยของตนในประเด็นนี้กันเสียที

แผงประตูด้านข้าง มีพนักวางแขน บุด้วยหนังสังเคราะห์ หุ้มด้วยเพิ่มพื้นที่ฟองน้ำุนุ่มบางๆมาให้ สามารถวางท่อนแขนได้สบายจนถึงข้อศอก มองไปทางด้านล่าง ก็จะเห็น ช่องวางขวดน้ำดื่ม ขนาด 7 บาท มาให้ 1 ช่อง พร้อมทั้งยังมีช่องวางของจุกจิกอีกนิดหน่อย ออกแบบมาให้เชื่อมต่อกัน

Previous Post

N0805006_แม้ว่าเขาจะยังเด็ก แต่เขาก็สามารถเข้าใจและช่วยให้พ่อแม่คืนดีได้_part2

Next Post

N0805010_แม้ว่าภรรยาของเขาจะตั้งท้องลูก แต่เขาก็ไม่ได้สนใจเลย.P_part2

Next Post
N0805010_แม้ว่าภรรยาของเขาจะตั้งท้องลูก แต่เขาก็ไม่ได้สนใจเลย.P_part2

N0805010_แม้ว่าภรรยาของเขาจะตั้งท้องลูก แต่เขาก็ไม่ได้สนใจเลย.P_part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N1606002_ภาพยนตร์โรแมนติกละครไทยที่ดีที่สุด 2024_part2
  • N1606004_เพราะเมียน้อยของเขา สามีจึงปฏิบัติต่อภรรยาอย่างเลวร้าย_part2
  • N1606005_หญิงสาวรู้สึกประหลาดใจเมื่อสามีของเธอมีชู้_part2
  • N1606006_สามีขี้โกงลับหลังภรรยา บริษัทจะเป็นของใคร?_part2
  • N1606008_เด็กสาวช่วยชีวิตหลานชายของ CEO โดยไม่ได้ตั้งใจ_part2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • June 2025
  • May 2025
  • April 2025
  • March 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.