__111_2024052110482777.jpg)
BYD บริษัทรถยนต์ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ของจีน เปิดตัวรถกระบะ Hybrid คันแรกของค่ายชื่อ BYD Shark ในประเทศเมกซิโก ของตระกูล Ocean

BYD Shark ออกแบบโดย Wolfgang Egger นักออกแบบรถยนต์ชาวเยอรมัน ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเป็นหัวหน้านักออกแบบให้แก่แบรนด์รถยนต์หรูของยุโรปอย่าง Alfa Romeo, Audi และ Lamborghini ปัจจุบันเป็นหัวหน้านักออกแบบของ BYD

BYD Shark มาพร้อมดีไซจ์นภายนอกสุดแกร่ง ให้อารมณ์ความรู้สึกเหมือนรถกระบะเจ้าตลาดอย่าง Ford F-Series ดีไซจ์นกระจังหน้าขนาดใหญ่ทรงเหลี่ยม ติดตรา BYD ล้อมกรอบด้วยไฟหน้าแนวตั้ง Dual LED ไฟหน้า DRL รูปตัว C ให้ความรู้สึกบึกบึน ดีไซจ์นลงตัวกับชุดกันชนหน้า เพิ่มความสปอร์ท และความหรูหราด้วยราวหลังคา และซันรูฟขนาดใหญ่ ด้านข้างเด่นด้วยคิ้วขอบล้อทรงเหลี่ยมกับล้ออัลลอยขนาดใหญ่ 18 นิ้ว พร้อมยาง 265/65 R18

ใช้พแลทฟอร์ม EV ล่าสุดของบริษัทกับ Bao 5 ซึ่งเป็นรถสปอร์ทอเนกประสงค์สุดหรู ภายใต้แบรนด์ Formula Leopard หรือ Fangchengbao ในพินอินของจีน BYD ซึ่งครองตำแหน่งที่โดดเด่นในตลาดบ้านเกิด กำลังเพิ่มความพยายามในการแสวงหาโอกาสระดับโลก และการเปิดตัว Shark จะเป็นความพยายามครั้งล่าสุด จากผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนในการผลักดันตลาด และสร้างแบรนด์ระดับโลก

BYD Shark สร้างจากพแลทฟอร์ม DMO Super Hybrid Off-Road Platform ซึ่งเป็นแชสซีส์ขั้นบันได หรือ Ladder-Frame Architecture เช่นเดียวกับ Bao 5 ซึ่งเป็นรถสปอร์ทอเนกประสงค์สุดหรู ภายใต้แบรนด์ Leopard หรือ Fangchengbao หนึ่งในแบรนด์ย่อยของ BYD ตัวรถมีความยาว 5,457 มม. ความกว้าง 1,971 มม. ความสูง 1,925 มม. ระยะฐานล้อ 3,260 มม. ความสูงจากใต้ท้องรถ 210 มม. น้ำหนักรถ 2,665 กก.

ขนาดตัวมีความใหญ่กว่าคู่แข่งในทุกมิติ หากเทียบกับ Hilux Revo Double Cab ยาวxกว้างxสูง 5,275×1,855×1,700 มม. ความยาวฐานล้อ 3,085 มม. New Ford Ranger Double Cab
ยาวxกว้างxสูง 5,370×1,918×1,884 มม. ความยาวฐานล้อ 3,270 มม.

ภายในมีดีไซจ์นโดดเด่นทันสมัย คอนโซลหน้าสวยแกร่ง พวงมาลัยมัลทิฟังค์ชัน 3 ก้านหุ้มหนัง ยกมาจาก Leopard 5 จอแสดงผลบนคอนโซลหน้า Head Up Display ขนาด 12 นิ้ว จอมาตรวัดดิจิทอลแบบ LCD ขนาด 10.25 นิ้ว การควบคุมระบบอินโฟเทนเมนท์ขณะ 12.8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อไร้สายทั้ง Apple CarPlay กับ Andriod Auto พร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียง “Hi BYD” มาพร้อม แอพพลิเคชันร้องคาราโอเกะ มากับลำโพง 8 จุด ที่ต้องซื้ออุปกรณ์ไมค์เสริม มีช่องเสียบ USB ทั้ง Type-A และ Type-C


ช่องแอร์คู่ใต้จอคล้ายกับ BYD Song L เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวา พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง พร้อมระบบฟอกอากาศประจุลบ และกรองฝุ่น PM2.5 ได้ถึงระดับ CN95 คอนโซลเกียร์มาพร้อมหัวเกียร์สั้นจับกระชับ ที่ชาร์จมือถือไร้สายกำลัง 50 W เบรคมือไฟฟ้า และ Auto Hold กล้องรอบคัน 360° และกล้องมุมมอง 180° บริเวณใต้ท้องรถ

The Shark จะแชร์พแลทฟอร์ม EV พลัก-อิน ไฮบริด DMO (โหมดออฟโรด 2 โหมด) รุ่นล่าสุดกับรถเอสยูวี Bao 5 ที่มีมอเตอร์คู่ซึ่งใช้เครื่องยนต์เบนซินประสิทธิภาพสูงขนาด 1.5/2.0 ลิตร และให้กำลังรวมมากกว่า 500 กิโลวัตต์ BYD มีแนวโน้มที่จะใช้วัสดุคุณภาพสูง และอุปกรณ์ที่ทันสมัยในรถบรรทุกเพื่อมอบห้องโดยสารที่มีสเปคสูงคล้ายกับพี่น้อง 07

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 5.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม. ชาร์จ และเติมน้ำมันครั้งหนึ่ง วิ่งได้ไกลกว่า 840 กม. และชาร์จหนึ่งครั้งวิ่งไกล 100 กม. ตามมาตรฐาน NEDC

มีระบบ V2L จ่ายกระแสไฟฟ้าให้อุปกรณ์ภายนอกได้ ทำให้การแคมพิงสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ชาร์จเร็วกระแสตรง DC 30-80 % รองรับกำลังชาร์จสูงสุด 40 kW ใช้เวลาเพียง 20 นาที

มีอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 13.33 กม./ลิตร มีความสามารถในการลากจูงสูงสุด 2,500 กก. ความสามารถในการบรรทุก 835 กก. ชุดแบทเตอรีวางอยู่ในส่วนกลางของแชสซีส์ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อควบคุมด้วยไฟฟ้า สามารถส่งถ่ายกำลังหน้า-หลังได้อย่างอิสระ

BYD Shark หวังท้าชนเจ้าตลาดอย่างกระบะ Isuzu D-Max, Toyota Hilux และ Ford Ranger โดยมีเป้าหมายที่จะเป็น 1 ใน 3 แบรนด์ที่ขายดีที่สุดในประเทศบราซิล ภายในปี 2028 พร้อมทำตลาดที่ประเทศเมกซิโกเป็นที่แรก เตรียมเปิดตัวในออสเตรเลียในช่วงครึ่งปีหลังนี้ และรุ่นไฟฟ้าล้วนจะเปิดตัวในปี 2025 แน่นอนว่ามีโอกาสได้เห็นรถกระบะจาก BYD มาจำหน่ายในไทยอย่างแน่นอน