ขณะที่รถพลังงานไฟฟ้า 100 % ในตลาดลักชัวรี เมอร์เซเดส-เบนซ์นำรถไฟฟ้ารุ่นประกอบในประเทศอย่าง EQS 450 4MATIC SUV ที่เปิดตัวพร้อมกับ EQS 300 Sedan ต่อด้วย เมอร์เซเดส-เบนซ์ มายบัค EQS 680 SUV และ G 580 with EQ Technology ในขณะที่รถสปอร์ต 2 ประตู รุ่นสมรรถนะสูงอย่าง เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอเอ็มจี CLE 53 ได้รับการตอบรับที่ดี ครองสัดส่วนยอดขายกว่า 30 % จากยอดขายทั้งหมดของแบรนด์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอเอ็มจี
สำหรับในปีนี้ มาร์ทิน ชเวงค์ กล่าวว่า จะเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอเอ็มจี พร้อมกันถึง 3 รุ่น ในงาน มอเตอร์โชว์ 2025 เพื่อสร้างความคึกคักให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ในช่วงไตรมาสแรกของปี พร้อมกับรถรุ่นใหม่ที่เปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้วเพราะยังสดอยู่ ไม่ว่าจะเป็น อี-คลาส , CLE Coupe , EQE 300 Sedan , EQS 450 4MATIC SUV และอีกหลายรุ่นจากทุกเซกเม้นท์ของแบรนด์
นอกจากนี้ยังโฟกัสที่รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งในส่วนนี้เราประสบปัญหาว่าลูกค้าไม่มีความเชื่อมั่นในการใช้รถไฟฟ้า ราคาสูง ใช้ไปแล้วราคาเหลือเท่าไร มันจะคุ้มไหม และเรื่องเครือข่ายการชาร์จไฟฟ้า ตรงนี้เราเห็นถึงความกังวลของลูกค้า ดังนั้นทางเมอร์เซเดส-เบนซ์ หาวิธีให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจ จึงเปิดตัวแคมเปญ “EV Worry-Free Package” ให้ลูกค้าเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า 100 % ด้วยข้อเสนอ ค่างวดเริ่มต้น 45,000 บาทต่อเดือน ในรุ่น EQE 350 4MATIC SUV Electric Art หรือสนใจ AMG Dynamic จ่ายค่างวด 55,000 บาทต่อเดือน เมื่อหมดสัญญา 5 ปีคืนรถเลย โดยไม่ต้องวางเงินดาวน์ก้อนแรกและก้อนสุดท้าย แถมยังได้มอบสิทธิ์ชาร์ฟรี 1 ปี ให้กับลูกค้า พร้อมการรับประกันภัยแบตเตอรี่นาน 10 ปีหรือ 2.5 แสนกิโลเมตรและอีกหนึ่งเรื่องที่จะโฟกัสในปีนี้คือ MAR20X (Mercedes-Benz Retail Experience) ซึ่งเป็นกลยุทธ์ในการพัฒนาและออกแบบศูนย์บริการของเมอร์เซเดส-เบนซ์ มาปรับใช้ในประเทศไทย ครอบคลุมทั้งในด้านการยกระดับช่องทางการมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า (Customer Touchpoints) การพัฒนาบุคลากรและกระบวนการ (People & Process) การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (Digitalization) และการออกแบบสถาปัตยกรรม (Architecture)
โดยในปีที่ผ่านมา มีตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการของเมอร์เซเดส-เบนซ์ กว่า 50% ที่เริ่มดำเนินงานภายใต้แนวคิด MAR20X และในปีนี้จะขยายสู่ 60% จนไปถึงในปี 2570 ที่บริษัทฯวางแผนที่จะขยายให้ครอบคลุมมากกว่า 90% ของจำนวนตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการทั้งหมดในประเทศไทย
ปัจจุบันมีเครือข่ายศูนย์บริการเมอร์เซเดส-เบนซ์ รวมทั้งมด 41 แห่ง และมีศูนย์ซ่อมสีและตัวถัง ที่ครอบคลุมทั่วภูมิภาคกว่า 26 แห่ง
สำหรับนโยบาย Retail of the Future การขายรถราคาเดียวทั่วประเทศและดีลเลอร์ไม่ต้องสต็อกสินค้ารถอยู่ที่ศูนย์กลาง ผลจากการใช้นโยบายนี้ หนึ่งปีที่ผ่านมา ได้มีการสำรวจกลุ่มลูกค้า 300 คนจากลูกค้าที่ได้มีการจองและซื้อจริง ปรากฎว่า 91% เข้าใจใน Concept และ 74 % โอเค ดี แต่ 9% บอกว่าเฉย ๆ ไม่ชอบ แต่โดยรวมเกิน 90 % ถือว่าประสบความสำเร็จ
ในด้านของกิจกรรมพิเศษสำหรับลูกค้าเมอร์เซเดส-เบนซ์ จะมีการจัดอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี เริ่มด้วยกิจกรรมที่จัดร่วมกับคอมมูนิตี้อย่างเป็นทางการอย่าง เมอร์เซเดส-เบนซ์ คลับ (ประเทศไทย) ในการรวมรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ คลาสสิก ในตำนานไว้มากกว่า 10 คัน มาขับขี่กันใน Road Trip สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ระหว่างวันที่ 15-16 กุมภาพันธ์ ต่อเนื่องด้วยการจัดกิจกรรมทดสอบรถยนต์ประจำปีอย่าง Mercedes-Benz Driving Events และ SUV Driving Events รวมทั้งสิ้น 18 ครั้ง โดยมีทั้งการขับขี่ในบนถนนและบนสนามแข่ง (On Road/On Track) รวมถึงการกลับมาในรอบ 5 ปี ของ “MercedesTrophy” รายการการแข่งขันกอล์ฟ ที่มีนักกอล์ฟผู้ร่วมแข่งขันมากกว่า 1,000 คน จาก 7 รอบการแข่งขัน โดยทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแบรนด์และลูกค้าเมอร์เซเดส-เบนซ์ ทุกคน