ย้อนกลับไปเมื่อ 10 กว่าปี เชอรี่ แบรนด์รถยนต์ชั้นนำจากเมืองจีน ได้เคยเข้ามาทำตลาดจนได้รับการตอบรับอย่างดี โดยรุ่นที่ประสบความสำเร็จและเป็นที่รู้จักมากขึ้นนั่นคือ Chery QQ รถเล็กท้ายตัด 5 ประตู Chery Cross เอ็มพีวีขนาดกะทัดรัด และ Chery Tiggo เอสยูวีคอมแพ็คที่นำพื้นฐาน Toyota RAV4 มาพัฒนาและจำหน่ายสั้นๆจนยุติตลาดไปและนับได้นับเป็นแบรนด์รถจีนอันดับต้นๆที่ได้มาปูทางทำตลาดในไทยจนมียี่ห้ออื่นๆจากจีนทำต
ล่าสุด เชอรี่ เตรียมแผนที่จะกลับมาทำตลาดอย่างเต็มรูปแบบในไทยหลังจากห่างหายจากตลาดไปนานและการมาคราวนี้จะยกให้ไทยเป็นฐานการผลิตและการส่งออก รถยนต์พวงมาลัยขวา เพื่อขายในไทยและประเทศอื่นๆในกลุ่มอาเซี่ยน ตามข้อมูลที่ได้มานั้น Chery จะเข้าสู่ประเทศไทยด้วยการลงทุน และการดำเนินธุรกิจรูปแบบใหม่ ด้วยผลิตภัณฑ์อัจฉริยะ และการบริการที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น ถ้าย้อนกลับไปดูภูมิหลังของค่าย Chery นับว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว เป็นผู้นำแบรนด์รถยนต์จีนรายแรก ยึดมั่นกับการพัฒนาเทคโนโลยีและดีไซน์ด้วยตนเองที่ไม่ได้ไปหยิบยืมค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นและยุโรปมาจนเป็นที่รู้จักกันในนามว่า “Chery’s technology” และมีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีหลักในอุตสาหกรรมยานยนต์ อาทิ เครื่องยนต์ เกียร์อัตโนมัติ และแชสซีส์ที่เป็นนวัตกรรมของตนเอง
ที่ผ่านมาเครื่องยนต์ติดอันดับ Top 10 ของจีนถึง 6 โมเดลด้วยกัน และในแง่ของเทคโนโลยีอัจฉริยะ Chery ได้บรรลุความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ Huawei และบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกรายอื่น ๆ เพื่อร่วมกันพัฒนายานยนต์อัจฉริยะที่พร้อมรับกับโลกอนาคต ปัจจุบันได้มีการเปิดตัวเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับ L2.5 ในตลาดแล้ว และน่าจะพัฒนาจนได้เป็นเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับ L4 ได้ในปี 2025 และในแง่ของเทคโนโลยีพลังงานใหม่ Chery ได้เริ่มวิจัยและพัฒนามาตั้งแต่ปี 1999 และเป็นแบรนด์จีนเจ้าแรกที่เปิดตัวรถไฟฟ้าขนาดเล็ก (Little Ant) อย่างรุ่น EQ1 ที่มีตัวรถทำมาจากอะลูมิเนียมน้ำหนักเบา
Chery เป็นแบรนด์รถยนต์จีนรายแรก ๆ และทรงอิทธิพลไปทั่วโลก เป็นบริษัทรถยนต์จีนรายแรกที่ส่งออกรถยนต์, ชิ้นส่วน CKD, เครื่องยนต์, เทคโนโลยีและอุปกรณ์การผลิตยานยนต์ไปทั่วโลก นับเป็นปีที่ 20 สำหรับกลยุทธ์การบุกตลาดโลกของ Chery โดย Chery ได้ส่งออกยานยนต์ไปกว่า 80 ประเทศและภูมิภาค และได้ก่อตั้งโรงงาน 10 แห่งในต่างประเทศ อีกทั้งยังมีตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการรวมกันกว่า 1,500 แห่ง มีลูกค้าสะสมรวม 9.5 ล้านรายทั่วโลก และขึ้นครองอันดับหนึ่งของผู้ส่งออกรถยนต์นั่งโดยสาร (Passenger Car) ของจีน 18 ปีติดต่อกัน
เท่าที่เปิดข้อมูลกันแบบนี้ไม่ธรรมดาใช่ไหมครับ งานนี้เรามาดูตัวโปรดักส์กันบ้างเรามาดูว่า รุ่นไหนที่น่าสนใจและอาจเป็นว่าที่รุ่นปฐมฤกษ์ที่จะมาขายในไทย นั่นคือ Chery Tiggo Series เอสยูวีรุ่นเด่นของค่าย และรุ่นที่คาดว่าจะนำมาขายนั่นคือ Chery Tiggo 7 PRO เอสยูวีระดับเดียวกับ MG ZS Toyota Corolla Cross Mazda CX-30 หรูสง่าสไตล์ เชอรี่ มาพร้อมขุมพลังแรงด้วยเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร 146 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 210 นิวตันเมตรที่ 1,750-4,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT 9 สปีด และความเท่จากกระจังหน้าลายเอกลักษณ์พร้อมไฟหน้า Martrix LED และไฟท้าย LED แนวยาว เส้นสายการออกแบบที่คล้ายๆกับเพื่อนร่วมชาติเดียวกันอย่างแบรนด์ Geely พร้อมหลังคาพาโนรามิกซันรูฟขนาดใหญ่ และการตกแต่งภายในที่หรูสูได้กับคู่แข่งจากญี่ปุ่นทั้งมาตรวัด LCD แบบเต็ม 12 นิ้ว จอสัมผัส 8 นิ้ว
อีกรุ่นกับ Chery Tiggo PRO 8 เอสยูวีใหญ่ 7 ที่นั่งที่แรงเหลือหลายกับเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.6 ลิตร 197 แรงม้า พร้อมความหรูตามสไตล์ เชอรี่ ด้วยไฟแอมเบี่ยนไลท์ 7 สี และเครื่องปรับอากาศแยกส่วน 3 โซน เป็นต้น
น่าจับตามองสำหรับ รถยนต์ใหม่ 2022 อย่าง Chery Tiggo 7 PRO และ Chery Tiggo 8 PRO จะมีโอกาสเข้าไทยหรือไม่ ในฐานะรุ่นปฐมฤกษ์ ที่มาพร้อมนวัตกรรมใหม่แบบ “LIFE PLUS” ให้ผู้บริโภคชาวไทยได้สัมผัสและจะติดตามแนวโน้มการพัฒนารถยนต์พลังงานใหม่ในประเทศไทยอย่างใกล้ชิด เพื่อช่วยยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยผ่านสองรุ่นนี้หรือรุ่นอื่นๆ หรือไม่ต้องติตาม
