Mazda ถูกจัดอันดับให้กลายเป็น “รถยนต์ที่น่าเชื่อถือที่สุด” โดยองค์กรผู้บริโภคไม่แสวงหากำไรแห่งสหรัฐอเมริกา ขณะที่ Toyota และ Lexus ไม่น้อยหน้าถูกจัดอยู่ใน Top 3 เช่นกัน
นิตยสาร Consumer Reports ได้เผยผลสำรวจเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของรถยนต์แต่ละยี่ห้อที่มีวางจำหน่ายในสหรัฐฯ โดยมีคะแนนตั้งแต่ 0-100 คะแนน และได้ทำการสำรวจรถยนต์กว่า 26 ยี่ห้อในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นรถสัญชาติอเมริกัน, ญี่ปุ่น และยุโรป โดยผลปรากฏว่ามีแบรนด์รถยนต์จากญี่ปุ่นติด 10 อันดับแรกจำนวนกว่า 5 ยี่ห้อด้วยกัน
สำหรับแบรนด์รถยนต์ที่ได้รับคะแนนความน่าเชื่อถือที่สุดอันดับ 1 ในปี 2020 นี้ ได้แก่ มาสด้า (Mazda) โดยมีคะแนนสูงสุดอยู่ที่ 83 คะแนน ทิ้งห่างแบรนด์ร่วมสัญชาติอย่าง Toyota อยู่ในอันดับที่ 2 ด้วยคะแนน 74 คะแนน ตามด้วย Lexus ในอันดับที่ 3 อยู่ที่ 71 คะแนน

ขณะที่อันดับที่ 4 ตกเป็นของ Buick ในเครือ GM สัญชาติอเมริกัน ซึ่งก้าวกระโดดขึ้นมาถึง 14 อันดับด้วยคะแนน 70 คะแนนในปีนี้ ตามมาด้วย Honda อยู่ในอันดับที่ 5 ด้วยคะแนน 63 คะแนน ซึ่ง Consumer Reports ระบุว่าฮอนด้ามีการพัฒนาความน่าเชื่อถือขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายๆ รุ่น หากแต่รถมินิแวน Odyssey (เวอร์ชั่นอเมริกาเหนือ) และเอสยูวี Passport กลับกลายเป็นตัวฉุดที่ทำให้มีคะแนนรวมไม่สูงเท่าที่ควรนัก
Advertisement
แบรนด์สัญชาติเกาหลีใต้อย่าง Hyundai ก็ทำคะแนนได้ดีไม่แพ้กัน โดยมีคะแนน 62 คะแนน อยู่ในอันดับที่ 6 ขึ้นนำ Ram และ Subaru ไปอย่างฉิวเฉียด ส่วนแบรนด์รถยนต์หรูจากฝั่งเยอรมนีปรากฏว่า Porsche สามารถทำคะแนนได้สูงสุดเมื่อเทียบกับแบรนด์ร่วมสัญชาติเดียวกันที่ 55 คะแนน อยู่ในอันดับที่ 9 ทิ้งห่าง BMW, Audi และ Mercedes-Benz ที่อยู่ในอันดับที่ 12, 14 และ 20 ตามลำดับ

ทั้งนี้ เกณฑ์การตัดสินของ Consumer Reports ระบุว่าได้ใช้วิธีสำรวจข้อมูลจำนวนมากจากสมาชิก โดยอาศัยข้อบ่งชี้ที่มักเป็นปัญหาหลักของรถยนต์จำนวน 17 ประการ เช่น ปัญหาเครื่องยนต์, ปัญหาการระบายความร้อนของเครื่องยนต์, ปัญหาเกียร์, ปัญหาระบบขับเคลื่อน, ปัญหาระบบเชื้อเพลิง, ปัญหาระบบไฟฟ้า, ปัญหาช่วงล่าง และปัญหาระบบปรับอากาศ เป็นต้น
อย่างไรก็ดี ผลสำรวจดังกล่าวเป็นการรวบรวมปัญหาที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ที่วางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น
ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้มาสด้าทำการเรียกคืน (Recall) รถยนต์รุ่น Mazda2 เครื่องยนต์ดีเซล ปี 2014 – 2018 ทุกคัน หลังลูกค้า 9 รายยื่นฟ้องมาสด้าเหตุพบปัญหาจากการใช้งาน
Advertisement
เว็บไซต์ “สภาองค์กรของผู้บริโภค” ระบุถึงกรณีศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้มาสด้าประเทศไทย ทำการเรียกคืนรถ Mazda2 รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล ปี 2014 – 2018 ทุกคัน เพื่อเข้ารับการแก้ไขปัญหา พร้อมทั้งเยียวยาลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการใช้รถ โดยระบุว่า
“วันนี้ (28 มีนาคม 2566) จิณณะ แย้มอ่วม ทนายความผู้ดูแลคดีการฟ้องร้อง ‘มาสด้า 2’ เปิดเผยว่า ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เรียกคืนรถยนต์มาสด้า 2 เครื่องยนต์เชื้อเพลิงดีเซล (Mazda 2 Skyactiv D 1.5) ทุกคันที่ผลิตในปี ค.ศ. 2014 – 2018 (ปี พ.ศ. 2557 – 2561) เข้ามาซ่อมแซม เนื่องจากเป็นสินค้าที่ชำรุดบกพร่องและเป็นสินค้าไม่ปลอดภัยที่อาจทำให้เกิดอันตรายกับผู้ขับขี่ได้”
“นอกจากนั้นยังได้กำหนดให้บริษัทฯ ต้องชดใช้ราคาค่าซ่อมตามจริง ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถวันละ 1,800 บาท รวมถึงค่าเสียหายทางจิตใจรายละ 30,000 บาท อีกทั้งบริษัทฯ ต้องจ่ายดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปีนับจากวันฟ้อง หลังจากที่ผ่านมาผู้บริโภคจำนวน 9 คน ได้ยื่นฟ้องบริษัทมาสด้าเป็นคดีแบบกลุ่ม ที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ เนื่องจากพบปัญหาเรื่องการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเครื่องสั่น หรือปัญหาเครื่องยนต์เร่งไม่ขึ้น ทั้งนี้ เมื่อวิเคราะห์จากคำพิพากษาของศาลที่ออกมานั้นเป็นเรื่องที่ดีและเป็นบรรทัดฐานให้กับผู้ประกอบการรายอื่นที่จะต้องรับผิดชอบกับผู้บริโภคหรือลูกค้าของตัวเอง เพราะที่ผ่านมาเมื่อไม่มีสภาพบังคับที่ชัดเจน ผู้ประกอบการจะพยายามหลีกเลี่ยงและหลบหลีกความรับผิดชอบ”
ทั้งนี้ สภาองค์กรของผู้บริโภคระบุว่าที่ผ่านมามีผู้ใช้รถยนต์รุ่นและปีการผลิตดังกล่าวหลายราย พบปัญหาในการใช้งาน โดยเฉพาะจังหวะที่จะเร่งแซง แต่เครื่องยนต์กลับสั่น รวมถึงไม่สามารถเร่งเครื่องยนต์ขึ้นได้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบจนนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุบนถนนได้
อย่างไรก็ดี ปัจจุบันทางมาสด้าประเทศไทยยังไม่มีการชี้แจงเกี่ยวกับคำพิพากษาชั้นต้นดังกล่าวแต่อย่างใด
