เป็นเจ้าของ EQS 500 รถอีวีที่วิ่งไกลที่สุดในกลุ่มลักชัวรี่ในไทย ด้วยข้อเสนอแบบ Worry-Free ทางเลือกใหม่ไร้ข้อกังวลสำหรับลูกค้า Mercedes-Benz
ข้อเสนอพิเศษมากมายไม่ว่าจะเป็น การทดลองขับฟรี นโยบายการเงิน นโยบายการคืนรถ และประกันภัยชั้นหนึ่งจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ นานถึง 2 ปี ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตและการขับขี่ของคนยุคใหม่ พร้อมเปิดทางเลือกให้อย่างเต็มที่ตามที่ลูกค้าต้องการเป็นเจ้าของ EQS 500 4MATIC AMG Premium แบบไร้กังวล จากอินไซด์ของผู้บริโภคและเทรนด์การเติบโตของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ในประเทศไทย สู่แคมเปญที่เข้ามาตอบโจทย์ทุกข้อกังวลของลูกค้าที่มองหารถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100%

Mercedes-Benz ได้นำเสนอทางเลือกที่ทำให้ลูกค้าสามารถกำหนดรูปแบบการใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้าได้ตามต้องการ พร้อมเปิดประสบการณ์การครอบครอง EQS 500 4MATIC AMG Premium แบบใหม่ ด้วยโปรแกรมทางการเงินและการบำรุงรักษารถ ทำให้การขับขี่ไร้ความยุ่งยาก เนรมิตทุกการเดินทางให้เป็นไปตามแบบฉบับ “Worry-Free Package”

รับข้อเสนอพิเศษ “Worry-Free Package” จากเมอร์เซเดส-เบนซ์ ดังนี้
- ทดลองขับฟรี เป็นระยะเวลา 7 วัน
- ฟรี! ประกันภัยชั้นหนึ่ง Mercedes-Benz Protection นาน 2 ปี
- ค่างวดเริ่มต้นเพียงเดือนละ 77,000 บาท
- เมื่อใช้รถครบ 3 ปี สามารถคืนรถได้ฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
- ฟรี! ค่าบำรุงรักษาตามระยะทาง และระยะเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ (MBSP Easy Care & Extra Guarantee ) ตลอด 5 ปี
- การันตีราคาขายต่อภายใต้โปรแกรม mySTAR เมื่อครบสัญญา 3 – 5 ปี
- ข้อเสนอพิเศษเฉพาะ EQS 500 4MATIC AMG Premium สามารถขยายระยะเวลาครอบครองรถเพิ่มอีก 2 ปี พร้อมผ่อนต่อเพียงเดือนละ 60,000 บาท
*เงื่อนไขให้เป็นไปตามที่บริษัทฯ และตัวแทนจำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการกำหนด
EQS 500 4MATIC AMG Premium ยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้า 100% จากเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่รังสรรค์ขึ้นด้วยแพลตฟอร์มของยานยนต์ไฟฟ้าในทุกรายละเอียด ทั้งการออกแบบโครงสร้างทางวิศวกรรม ดีไซน์ภายนอก และดีไซน์ภายใน สะท้อนเอกลักษณ์ของความเป็นยานยนต์สำหรับโลกอนาคต
มาพร้อมสมรรถนะการขับขี่แบบไร้ขีดจำกัด ผสานการออกแบบตามหลักพลศาสตร์เฉพาะแบบ One Bow Concept ซึ่งทำให้ตัวถังลู่ลม ส่งผลให้ประหยัดพลังงานและขับขี่อย่างปราดเปรียวมากขึ้น มอบระยะวิ่งที่ไกลถึง 702 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP รวมไปถึงเทคโนโลยีความปลอดภัยตามมาตรฐานของเมอร์เซเดส-เบนซ์ และระบบสาระบันเทิงอันโดดเด่น ที่พร้อมจะเปลี่ยนการขับขี่และการโดยสารให้ล้ำสมัยในทุกมิติ

ข่าวประชาสัมพันธ์จาก Mercedes-Benz
ปัจจุบันกระแสความนิยมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งก็แน่นอนว่าได้ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย จากข้อมูลสถิติยอดขายในเดือนสิงหาคม 2023 พบว่า รถยนต์ไฟฟ้าทำยอดขายได้ 18% เมื่อเทียบกับยอดขายรถยนต์ทั่วโลก Tesla Model Y เป็นรุ่นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุด แต่ BYD เป็นแบรนด์ที่มียอดรวมในการขายมากที่สุด
จากสถิติใน Cleantechnica เผยว่ายอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกในเดือนสิงหาคม 2023 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 45% ทำให้ยอดรวมเป็น 1,238,000 คัน เมื่อเทียบกับตอนปี 2022 ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้ามีส่วนแบ่งทางการตลาดทั้งหมด 18% (รถยนต์ไฟฟ้าล้วน BEV เพียงอย่างเดียว 13% และรถยนต์ไฟฟ้าอื่น ๆ อีก 5% ) และรถยนต์ไฟฟ้าล้วน BEVs มียอดจดทะเบียนในเดือน ส.ค. อยู่ที่ 71% นับรวมตั้งแต่ต้นปีถึงล่าสุดนี้ได้ส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 70%
20 รถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในโลก เดือนสิงหาคม 2023
จากตารางยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในเดือนสิงหาคม 2023 แล้วนั้น พบว่า Tesla Model Y มาเป็นอันดับ 1 จำนวนรวม 115,885 คัน รองลงมาเป็น BYD Song ยอดขายอยู่ที่ 57,603 คัน แซงหน้า Tesla Model 3 ที่ขายได้ 48,815 คันไปได้อย่างเฉียดฉิว

ที่น่าสนใจคือในตารางสถิตินี้ BYD เป็นเจ้าที่กวาดอันดับไปได้ 8 ใน 20 อันดับเลยทีเดียว โดยไฮไลท์ของ BYD นั้นอยู่ที่รุ่น BYD Seagull อันดับที่ 5 สร้างยอดขาย 34,841 คัน และ BYD Dolphin อันดับ 7 สร้างยอดขายได้ 32,288 คัน เป็นยอดขายที่สูงที่สุดในประวัติการณ์ของ BYD เลย
ในสถิติของรถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้ออื่นที่น่าสนใจคือ GAC Aion Y ที่เบียด BYD Han ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 8 ได้ โดยทำยอดขายอยู่ที่ 26,719 คัน และ GAC Aion S อยู่ในอันดับที่ 10 ทำยอดขายอยู่ที่ 22,650 คัน
20 รถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในโลกใน เดือนมกราคม – สิงหาคม 2023
ส่วนยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าโดยรวมตั้งแต่เดือนมกราคา – สิงหาคม 2023 ที่ผ่านมา พบว่า อันดับที่ 1 ก็ยังคงเป็น Tesla Model Y เช่นเดิม ที่มียอดแซงหน้าทุกเจ้าไปไกลอยู่ที่ 772,364 คัน และตามมาด้วย BYD Song ที่มียอดขายอดขาย 368,291 คัน เยอะกว่ายอดขาย Tesla Model 3 อยู่ที่ 3,888 คันเท่านั้น

โดยความฮอตฮิตของ BYD คือยืนหนึ่งจริง ๆ เพราะว่ากวาดตำแหน่ง 5 ใน 10 อันดับแรกไปที่เรียบร้อย และที่น่าสนใจคือ BYD Seagull และ BYD Dolphin ก็ได้ทำยอดขายสูงสุดในประวัติการณ์ของ BYD เลยเช่นกัน โดยรุ่น BYD Seagull ทำยอดขายอยู่ที่ 95,202 คัน และ BYD Dolphin ทำยอดขายอยู่ที่ 222,825 คัน
นอกจากนี้ Wuling HonhGuang Mini Ev ก็ยังติด Top 10 ไปกับเค้าด้วยยอดขาย 153,999 คัน และปิดท้ายอันดับ 10 ด้วย GAC Aion Y จำนวน 136,619 คัน
สถิติแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในโลก เดือนสิงหาคม 2023
เรียกได้ว่าตีตลาดได้แตกเลยจริง ๆ สำหรับ BYD เพราะว่าขึ้นแท่นเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในโลก โดยสถิติของเดือนสิงหาคม 2023 พบว่า BYD กวาดยอดขายไปที่ 261,504 คัน ถัดมาเป็น Tesla อยู่ที่ 170,171 คัน และอันดับ 3 คือ GAC Aion อยู่ที่ 51,570 คัน แซงหน้าแบรนด์ยุโรปอย่าง Volkswagen และ BMW

สถิติแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในโลก เดือนมกราคา – สิงหาคม 2023
จากสถิติรวมตั้งแต่เดือนมกราคาจนถึงสิงหาคม 2023 ที่ผ่านมา BYD และ Tesla ก็ยังคงครอบยอดขาย 1 ใน 3 ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินทั่วโลก และอันดับ 3 ที่ขายดีอย่างต่อเนื่องก็คือ GAC Aion นั่นเอง โดยทำยอดขายได้ได้ 308,769 คัน

ส่วนอันดับที่ 4 อย่าง BMW ได้ตามหลัง GAC Aion อยู่ที่ 8,303 คันเท่านั้น ถือว่าเป็นการแข่งขับที่ค่อนข้างสูสีกันจริง ๆ ส่วน Li Auto สตาร์ทอัพรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนที่คว้าอันดับ 8 ไปได้ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่น่าจับตามองไม่น้อยเลยจริง ๆ ซึ่งตัวเลขยอดขายได้เกือบใกล้เคียงกับ Mercedes อยู่ไม่น้อย
ตารางดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าตลาดของรถยนต์ไฟฟ้ามีการเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ในปีนี้ และคาดว่าในปีหน้ามีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นกว่าเดิมแน่ ๆ แถมในการแข่งขันของทั้งตลาดจีนและยุโรปเองก็ดุเดือดพอสมควร ต้องรอติดตามว่าในอนาคตนี้จะมีการผลิกสถิติมากน้อยแค่ไหน