1. รถพลังงานไฟฟ้า BYD Dolphin

BYD Dolphin (บีวายดี ดอลฟิน) รถพลังงานไฟฟ้า 100% ทรงแฮตช์แบ็ก 5 ประตูคันจิ๋วแต่แจ๋ว น้องเล็กจากบ้าน BYD มาพร้อมแบตเตอรี่ BYD Blade Battery (LFP) ความจุ 44.9 kWh ตัวถังและราคามีความใกล้เคียงกับ Good Cat แต่มาพร้อมดีไซน์เรียบง่าย ไม่หวือหวา เข้าถึงคนได้ทุกกลุ่ม
จุดเด่นรุ่นนี้อยู่ที่หลังคากระจก Panoramic Glassroof เลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยไฟฟ้าพร้อมม่านบังแดดและสวิตช์เปลี่ยนเกียร์แบบ Finger-touched Electronic Shift ภายในมาพร้อมแผงหน้าปัดดีไซน์แปลกตากับหน้าจออินโฟเทนเมนต์ขนาด 12.8 นิ้วที่หมุนได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอนและเบาะทรงสปอร์ตภายในสีทูโทนเด่นสะดุดตาอีกด้วย
BYD Dolphin
ราคารถยนต์ไฟฟ้าเริ่มต้น | 799,999 บาท |
กำลังสูงสุด | 177 แรงม้า |
แรงบิดสูงสุด | 290 Nm |
ขนาดแบตเตอรี่ | 44.9 กิโลวัตต์/ชั่วโมง |
ใช้เวลาชาร์จนาน | 6 ชั่วโมง 25 นาที / ชาร์จด่วน 30 นาที |
ระยะทางวิ่งเมื่อชาร์จเต็ม | 405 กม. |
2. รถพลังงานไฟฟ้า BYD Atto 3

ฮอตไม่ฮอตไม่รู้แต่คนไทยแห่จองกันตั้งแต่เช้ามืดจนเป็นข่าวมาแล้ว! กับ BYD Atto 3 (บีวายดี อ๊อตโต้ 3) รถยนต์ไฟฟ้า ประเภท SUV ขนาดเล็กจากบ้าน BYD อีกคันที่น่าสนใจ โดยมาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อน 1 ตัวติดตั้งบริเวณล้อหน้า พร้อมระบบเกียร์ 1 สปีด และแบตเตอรี่ BYD Blade Battery ความจุ 49.9 kWh บนพื้นฐาน e-Platform 3.0 เช่นเดียวกับ Dolphin
ภายในมาพร้อมความจุด้านท้ายสูงสุด1,340 ลิตร เมื่อพับเบาะหลัง แถมยังได้ฝาท้ายระบบไฟฟ้าและหลังคากระจก Panoramic Sunroof เปิด/ปิดด้วยระบบไฟฟ้า มาพร้อมระบบกันหนีบและราวหลังคาสำหรับติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมด้วย
BYD Atto 3
ราคารถยนต์ไฟฟ้าเริ่มต้น | 1,199,900 บาท |
กำลังสูงสุด | 201 แรงม้า |
แรงบิดสูงสุด | 310 Nm |
ขนาดแบตเตอรี่ | 49.9 กิโลวัตต์/ชั่วโมง |
ใช้เวลาชาร์จนาน | 7 ชั่วโมง / ชาร์จด่วน 40 นาที |
ระยะทางวิ่งเมื่อชาร์จเต็ม | 410 กม. |
3. รถพลังงานไฟฟ้า BMW iX3

BMW iX3 (บีเอ็มดับเบิลยู ไอเอ็กซ์3) ครอสโอเวอร์ ขนาดคอมแพกต์ 5 ที่นั่งไฟฟ้าล้วนคันนี้นำเข้า CBU มาจากจีน โดยเป็นหนึ่งใน BMW X3 Series โดยดีไซน์ภายนอกใช้แพลตฟอร์มและดีไซน์ร่วมกับ BMW X3 ที่ออกแบบสำหรับทุก ประเภทรถยนต์ แต่ปรับรูปแบบกระจังหน้าขนาดใหญ่ให้เป็นแบบปิดตามสไตล์รถยนต์ไฟฟ้าโดยยังคงเอกลักษณ์ Kidney Grille และโลโก้ BMW ตัดขอบสีฟ้าบ่งบอกความเป็นรุ่นไฟฟ้าล้วน
ด้านล่างมี Diffuser ช่วยตัดลมและไม่มีช่องเว้าท่อไอเสีย ขณะที่ภายในยังคงตกแต่งตามสไตล์ของ BMW ที่เน้นความพรีเมี่ยมเป็นหลัก ใช้ขุมพลัง BMW eDrive 1 มอเตอร์พร้อมระบบขับเคลื่อนล้อหลัง
BMW iX3
ราคารถยนต์ไฟฟ้าเริ่มต้น | 3,699,000 บาท |
กำลังสูงสุด | 286 แรงม้า |
แรงบิดสูงสุด | 400 Nm |
ขนาดแบตเตอรี่ | 80 กิโลวัตต์/ชั่วโมง |
ใช้เวลาชาร์จนาน | 8 ชั่วโมง / ชาร์จด่วน 34 นาที |
ระยะทางวิ่งเมื่อชาร์จเต็ม | 470 กม. |
4. รถพลังงานไฟฟ้า Volvo XC40 Recharge Pure Electric

Volvo XC40 Recharge (วอลโว่ เอ็กซ์ซี40 รีชาร์จ) รถยนต์ไฟฟ้าล้วน EV SUV กลุ่ม B-Segment ที่แรงทะลุมิติ EV ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม เพียง 4.9 วินาที แถมยังมาพร้อม 2 มอเตอร์ขนาด 150 kW ทั้งหน้าหลัง ขณะที่ตัวถังใช้พื้นฐานเดียวกับ Volvo XC40 แบบเครื่องยนต์สันดาปทุกประการ แตกต่างกันเพียงกระจังหน้าแบบปิดทึบในเฉพาะรุ่นไฟฟ้าล้วนเท่านั้น
ด้านในมาพร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังมีความจุมากถึง 1,295 ลิตรเมื่อพับเบาะนั่ง และหลังคาแบบ Panoramic Glassroof ลดความร้อนได้มากถึง 80% และหน้าจอมัลติมีเดียระบบปฎิบัติการของ Google ที่เพียงแค่สั่ง “Hey Google” ก็สามารถใช้งานได้ทันที
Volvo XC40 Recharge Pure Electric
ราคารถยนต์ไฟฟ้าเริ่มต้น | 2,590,000 บาท |
กำลังสูงสุด | 408 แรงม้า |
แรงบิดสูงสุด | 660 Nm |
ขนาดแบตเตอรี่ | 78 กิโลวัตต์/ชั่วโมง |
ใช้เวลาชาร์จนาน | 7 ชั่วโมง / ชาร์จด่วน 20 นาที |
ระยะทางวิ่งเมื่อชาร์จเต็ม | 500 กม. |
5. รถพลังงานไฟฟ้า Tesla Model Y

อีกหนึ่งแบรนด์ BEV สุดฮอตที่ใครๆ ก็อยากลองนั่งสักครั้งกับ Tesla Model Y (เทสลา โมเดล วาย) ที่เพิ่งเปิดตัวในไทยอย่างเป็นทางการ โดยเป็น Crossover EV SUV 5 ประตูรุ่นรองลงมาจากรุ่นพี่อย่าง Model X มาพร้อมขนาดกระทัดรัดในราคาเข้าถึงง่าย อีกทั้งยังเป็น Tesla รุ่นแรกที่ใช้ชิ้นส่วนตัวถังจากเครื่อง Gigapress ซึ่งจะทำให้โครงสร้างตัวรถมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้นโดนใช้การพิมพ์ขึ้นรูปในชิ้นเดียว พร้อมไฟหน้าแบบ Matrix LED เต็มระบบ ขณะที่ภายในห้องโดยสารเน้นความเรียบง่าย แต่ก็ยกฟีเจอร์มาครบครันทั้งมือจับประตูแบบเรียบเนียนกับตัวรถ, หลังคาแก้วแบบพาโนรามิก, กล้องรอบคัน, Autopilot เป็นต้น
Tesla Model Y
ราคารถยนต์ไฟฟ้าเริ่มต้น | 1,959,000 บาท |
กำลังสูงสุด | 283 แรงม้าในรุ่น Standard |
แรงบิดสูงสุด | 420 Nm ในรุ่น Standard |
ขนาดแบตเตอรี่ | 55 กิโลวัตต์/ชั่วโมงในรุ่น Standard |
ใช้เวลาชาร์จนาน | 8 ชั่วโมง 15 นาที / ชาร์จด่วน 27 นาที |
ระยะทางวิ่งเมื่อชาร์จเต็ม | 510 กม. ในรุ่น Standard |

5 รถพลังงานไฟฟ้า ที่มาแรงที่สุดปี 2023
มาถึงในส่วนของรถยนต์ไฟฟ้าที่น่าจับตามองในปีนี้ จะมี รถไฟฟ้ารุ่นไหนดี ค่ายไหนบ้างที่เข้ามาทำตลาด ยี่ห้อรถไฟฟ้าในไทย และมีความโดดเด่นอย่างไร เราไปติดตามกันดีกว่าว่าแต่ละรุ่นมีความพิเศษยังไงบ้าง
1. รถยนต์ไฟฟ้า ยี่ห้อ Porsche Taycan Turbo

เริ่มต้นที่ รถไฟฟ้าที่แรงที่สุด จากค่าย Porsche ที่มีดีไซน์สวยโดดเด่น มาพร้อมกับทรงสปอร์ต และมาแรงที่สุดในขณะนี้ ซึ่งรุ่นนี้เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นแรกจาก Porsche ที่สามารถเพิ่มออปชั่นแบบ Custom ได้เองตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน มีอัตราเร่งที่ 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแค่ 2.8 วินาทีเพียงเท่านั้น และมาพร้อมกับระบบเซฟตี้เหนือชั้น อย่างระบบที่ช่วยเบรกหรือช่วยเร่งอัตราความเร็วอัตโนมัติ ไม่ต้องกังวลต่อการขับขี่บนท้องถนน สำหรับใครที่เป็นชอบดีไซน์รถแบบโดดเด่น รับรองว่าเลือก Porsche Taycan Turbo ไม่มีผิดหวังแน่นอน
Porsche Taycan Turbo
ราคาเริ่มต้น | 9,900,000 บาท |
กำลังสูงสุด | 530-761 แรงม้า |
แรงบิดสูงสุด | 850-1,050 Nm |
ขนาดแบตเตอรี่ | 93.4 กิโลวัตต์/ชั่วโมง |
ใช้เวลาชาร์จนาน | 8 ชั่วโมง / ชาร์จด่วน 22 นาที |
ระยะทางวิ่งเมื่อชาร์จเต็ม | 503 กม. |
2. ยี่ห้อรถไฟฟ้า Audi e-tron GT

สำหรับรถยนต์จากค่าย Audi ก็มีดีไซน์สวยไม่แพ้กัน มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 4.5 วินาที พร้อมด้วยระบบเซฟตี้แน่น ๆ ที่ช่วยให้ขับขี่ได้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น สมรรถนะเครื่องแรง และยังมีสีตัวถังมีให้เลือกถึง 8 สี ภายในห้องโดยสารหรูหรา กว้าง นั่งสบาย มีการรับประกันแบตเตอร์รี่นานถึง 8 ปี แถมมีโหมดบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง ให้อีกเป็นเวลา 5 ปีอีกด้วย ซึ่งถือว่าเป็นรถไฟฟ้าแห่งปี 2023 ที่คุ้มค่า คุ้มราคาสุด ๆ
Audi e-tron GT
ราคาเริ่มต้น | 6,390,000 บาท |
กำลังสูงสุด | 476 แรงม้า |
แรงบิดสูงสุด | 630 Nm |
ขนาดแบตเตอรี่ | 93.4 กิโลวัตต์/ชั่วโมง |
ใช้เวลาชาร์จนาน | 4 ชั่วโมง 30 นาที / ชาร์จด่วน ประมาณ 20 นาที |
ระยะทางวิ่งเมื่อชาร์จเต็ม | 540 กม. |
3. รถยนต์พลังงานไฟฟ้า MG4 Electric

อีกหนึ่งรถยนต์ BEV ราคาประหยัดที่ได้รับความสนใจอย่างมากกับ MG4 (เอ็มจี4) หรือ MG สีฟ้า ที่เปิดตัวมาในราคาเพียง 6 หลักทั้งรุ่น D และรุ่น X ที่เป็นรุ่นทอป โดยใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหลังพร้อมขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor และแบตเตอรี่ RUBIK’s CUBE Battery มาตรฐาน IP67 พร้อมโหมดขับเคลื่อน 5 รูปแบบ และระบบความปลอดภัยมาตรฐาน Advanced Synchronized Protection System ถึง 26 ระบบ โดยเฉพาะสำหรับรุ่น X เพิ่มงบอีก 1 แสนได้ทั้งอุปกรณ์ชาร์จไร้สาย, กล้องมองภาพรอบทิศทาง 3 มิติ, สปอยเลอร์หลัง Twin Arrow Wing และออปชั่นเพิ่มอีกเพียบ
MG4 Electric
ราคารถยนต์ไฟฟ้าเริ่มต้น | 869,000 บาท |
กำลังสูงสุด | 170 แรงม้า |
แรงบิดสูงสุด | 250 Nm |
ขนาดแบตเตอรี่ | 51 กิโลวัตต์/ชั่วโมง |
ใช้เวลาชาร์จนาน | 8 ชั่วโมง 30 นาที / ชาร์จด่วน 35 นาที |
ระยะทางวิ่งเมื่อชาร์จเต็ม | 425 กม. |
4. รถยนต์พลังงานไฟฟ้า Lexus RZ 450e

Lexus RZ 450e (เล็กซัส อาร์ซี 450อี) เป็น Crossover SUV สุดหรูที่นำเข้าทั้งคันแบบ CBU จากญี่ปุ่น โดยมาด้วยกัน 2 รุ่นคือ Luxury และ Premium ขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ DIRECT4 ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว โดยมอเตอร์ด้านหน้าให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า ขณะที่มอเตอร์ด้านหลังให้กำลังสูงสุด 109 แรงม้า
สำหรับรุ่น Premium เพิ่มฟังก์ชั่นเด่น เช่น ระบบทำความสะอาดไฟหน้า, ไฟตัดหมอกหน้า, ระบบซับเสียงกระจกข้าง/หลัง, หลังคากระจกพาโนรามาพร้อมฟังก์ชันปรับความใสกระจก ฯลฯ ในราคาที่ต่างกัน 3 แสนกว่าบาท ส่วนระบบความปลอดภัยไม่ต่างกันมาก มีระบบไฟหน้าปรับสูง-ต่ำอัจฉริยะที่เพิ่มมาเท่านั้น
Lexus RZ 450e
ราคารถยนต์ไฟฟ้าเริ่มต้น | 3,870,000 บาท |
กำลังสูงสุด | 313 แรงม้า |
แรงบิดสูงสุด | 435 Nm |
ขนาดแบตเตอรี่ | 71.4 กิโลวัตต์/ชั่วโมง |
ใช้เวลาชาร์จนาน | 6 ชั่วโมง 30 นาที / ชาร์จด่วน 35 นาที |
ระยะทางวิ่งเมื่อชาร์จเต็ม | 470 กม. |
5. รถไฟฟ้าครอบครัว MG MAXUS 9

MG MAXUS 9 (เอ็มจี แม็กซัส 9) รถ MPV พลังงานไฟฟ้า 100% สุดหรูแบบ 7 ที่นั่ง โดยรุ่นที่นำเข้าไทยเป็นเวอร์ชั่นพวงมาลัยขวาคันแรกในย่านอาเซียน มาพร้อมดีไซน์หรูหราด้วยกระจังหน้าแบบ Grille Less Design พร้อมชุดไฟหน้าแบบ LED ทั้งระบบและไฟ DRL พาดใต้ฝากระโปรงหน้า
ขณะที่ประตู 2 ฝั่งเป็นแบบสไลด์ด้วยไฟฟ้า มาพร้อมภายในที่เน้นความพรีเมี่ยม หรูหรา กว้างขวาง ห้องโดยสารจะเป็นแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ขณะที่เบาะนั่งผู้โดยสารปรับอัตโนมัติ 4 ทิศทาง แถมเบาะนั่งแถวที่ 2 แบบ VIP Captain Seat ยังมีระบบบันทึก ระบบนวด และสามารถปรับระดับอุณหภูมิได้ตามต้องการด้วย
MG MAXUS 9
ราคารถยนต์ไฟฟ้าเริ่มต้น | 2,499,000 บาท |
กำลังสูงสุด | 245 แรงม้า |
แรงบิดสูงสุด | 350 Nm |
ขนาดแบตเตอรี่ | 90 กิโลวัตต์/ชั่วโมง |
ใช้เวลาชาร์จนาน | 8 ชั่วโมง 30 นาที / ชาร์จด่วน 36 นาที |
ระยะทางวิ่งเมื่อชาร์จเต็ม | 540 กม. |
การดูแลรักษารถยนต์ไฟฟ้า

แน่นอนว่ารถยนต์ไฟฟ้านั้นต่างก็ต้องดูแลรักษาเช่นเดียวกับรถยนต์ทั่วไป ซึ่งรายละเอียดในการดูแลรักษาอาจมีความแตกต่างกัน ซึ่งการดูแลรถยนต์ไฟฟ้าแบบเบื้องต้นนั้นมีดังนี้
1. ดูแลมอเตอร์
องค์ประกอบสำคัญของการบำรุงรักษารถยนต์ไฟฟ้า คือ มอเตอร์ ส่วนใหญ่แล้วมอเตอร์ของรถยนต์ไฟฟ้าไม่ต้องมีการบำรุงรักษาในระดับเดียวกับเครื่องยนต์แบบดั้งเดิม เพราะไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง หรือแม้แต่เปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิง แต่เพื่อให้มอเตอร์มีประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีนั้นควรนำมอเตอร์ของรถยนต์ไฟฟ้าเข้ารับบริการบ่อยเท่ากับรถยนต์ทั่วไป และใช้บริการจากช่างที่มีประสบการณ์เฉพาะด้านยานยนต์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์
2. ศึกษาทำความเข้าใจการบำรุงรักษาเบรก
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้านั้นใช้สิ่งที่เรียกว่า Regenerative braking ซึ่งเป็นการใช้เบรกในการชาร์จไฟที่เป็นข้อได้เปรียบในการใช้งานของรถยนต์ไฟฟ้า ด้วยการเพิ่มการชาร์จไฟให้สามารถขับขี่ได้ไกลกว่าเดิมโดยเฉพาะในเมืองที่มีการแตะเบรกอยู่บ่อยครั้ง การเบรกแบบ Regenerative braking จะช่วยให้คุณรักษาผ้าเบรกของได้นานขึ้นด้วย แต่อย่างไรก็ตามควรหลีกเลี่ยงการเหยียบเบรกในขณะที่รถมีความเร็วสูง ก็จะช่วยรักษาผ้าเบรกให้อยู่ได้นานขึ้นเช่นกัน
3. ควรจอดรถไฟฟ้าของคุณไว้ในที่ร่ม
การยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่โดยรวมด้วยวิธีง่าย ๆ สามารถทำได้โดยการจอดรถในที่ร่ม เพราะจะช่วยทำให้อุณหภูมิทรงตัวในวันที่อากาศร้อน ซึ่งถ้าหากปล่อยให้รถของคุณตากแดดนาน ระบบการจัดการความร้อนจะตอบสนองต่อความร้อนและจะทำงานหนักอย่างต่อเนื่องภายใต้แสงแดด เสี่ยงทำให้แบตเตอรี่ร้อนเกินไป ซึ่งถ้าหากจอดรถในที่ที่มีอากาศร้อนเป็นเวลานาน ก็จะส่งผลทำให้แบตเตอรี่มีอายุสั้นลงด้วย
4. การบำรุงรักษาพื้นฐาน
การบำรุงรักษารถยนต์ขั้นพื้นฐานนั้นยังคงจำเป็นเช่นเดิมเหมือนรถยนต์ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น การเช็กเปลี่ยนยางครั้งสุดท้าย ระดับน้ำหล่อเย็นในรถ และการเปลี่ยนใบปัดน้ำฝนอย่างน้องสองปีต่อครั้ง ซึ่งแน่นอนว่ามีบางสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องกังวลอีกต่อไป เมื่อคุณเปลี่ยนมาขับรถยนต์ไฟฟ้า เช่น การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง แต่ถ้าหากสงสัยว่ารถของคุณกำลังมีปัญหา ควรรีบตรวจเช็กโดยผู้เชี่ยวชาญ เมื่อรู้สึกถึงสัญญาณแรกของปัญหา
สำหรับข้อมูลรถยนต์ไฟฟ้าที่นำเสนอในวันนี้คงช่วยให้หลาย ๆ คนได้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้นว่ารถยนต์ไฟฟ้าค่ายไหนน่าจับตามองและน่าจับจองในปีนี้ ซึ่งแน่นอนว่าในอนาคตเราคงได้เห็นรถยนต์ไฟฟ้าจากหลากหลายค่ายมากขึ้นแน่นอน และนอกจากนี้ก็ยังเปลี่ยนอนาคตด้านพลังงานด้วยเช่นกัน ซึ่งจะเป็นไปไหนทิศทางไหนนั้นก็คงต้องจับตามองกันต่อไปในปีนี้ยาว ๆ
หากคุณกำลังสนใจจะ ซื้อรถมือสอง หรือ ขายรถคันเดิม แล้วล่ะก็… ที่ CARSOME เสนอราคาให้คุณคุ้มค่าที่สุด! เรามีการดำเนินการที่มีมาตรฐาน โปร่งใส รวดเร็ว ให้คุณซื้อหรือขายรถได้อย่างสบายใจ คลิกที่เว็บไซต์เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมได้