• Movie 187
  • Movie 66
  • Sample Page
  • รีวิวหนังดี 294 – P1
  • รีวิวหนังดี 294 – P2
  • รีวิวหนังดี 294 – P3
reviewfilm.dailync91news.live
No Result
View All Result
No Result
View All Result
reviewfilm.dailync91news.live
No Result
View All Result

N2807005_พน กงานส งของใจด_part2

admin79 by admin79
July 24, 2025
in Uncategorized
0
N2807005_พน กงานส งของใจด_part2

สำหรับรถยนต์ BMW ที่ใช้ขุมพลัง Diesel Common Rail Turbo ในยุคใหม่ๆนั้น หากเห็นตัวเลขในตารางว่าเป็นอย่างไร
ในการขับขี่จริง แทบไม่ต้องเดาต่อเลย คุณก็คงน่าจะพอรู้ว่า ในอดีตที่ผ่านมา ขุมพลัง N47 เคยสร้างความอัศจรรย์จนถึงขั้น
ทำให้ผม และตาแพน Commander CHENG! อ้าปากค้างกันมาแล้วใน BMW 320d E90 เวอร์ชันก่อน Minorchange รถเก๋ง
Diesel บ้าอะไรวะ ประหยัดสุดขีดคลั่ง แถมยังแรงบ้าพลัง ท้อปสปีด ปาเข้าไป 244 กิโลเมตร/ชั่วโมง และนั่นคือ  เหตุการณ์
เมื่อปี 2008 หลังจากนั้นเป็นต้นมา ต่อให้ได้จับ BMW คันไหน ที่ใช้ ขุมพลังเดียวกันนี้ ความประทับใจที่เคยมี ก็ยังหลั่งไหล
พรั่งพรูมาให้ได้รู้สึกนึกคิดจดจำกันได้อย่างดี

แต่คราวนี้ ขุมพลัง N47 ถูกพัฒนาและยกระดับขึ้น ให้แรงกว่าเดิมไปอีกขั้น แถมประหยัดน้ำมันกว่าเดิมขึ้นไปอีกระดับ
แม้ว่ารถจะต้องถูกจำกัดความเร็วสูงสุดเอาไว้เพียงแค่ 210 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่ทันทีที่คุณเหยียบคันเร่งจมมิด เพื่อออกรถ
X3 xDrive 20d จะพาคุณ พุ่งกระโจนไปข้างหน้า…สังเกตไหมครับ ผมไม่ใช้คำว่า พุ่งทะยาน แต่คราวนี้ ใช้คำว่า พุ่งกระโจน

ก็แน่ละ อัตราเร่งของมัน พารถพุ่งกระโจนออกไปอย่างรวดเร็ว และแอบโหดเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน ในช่วงเกียร์ 1  2 และ 3
ระหว่างนั้น แผ่นหลังของคุณจะถูกดึงให้ติดเบาะ มันจะเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงช่วง 160 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ช่วงปลายของรอบเครื่องยนต์ คือราวๆ ใกล้ๆ กับ 4,000 รอบ/นาทีนั้น ความเร็วของรถจะเพิ่มขึ้น ช้าลงกว่าช่วงก่อนหน้า
แต่ยังสัมผัสได้เลยว่า พละกำลังที่มีอยู่ ยังสามารถเค้นออกมาได้อีกพักใหญ่ จนกระทั่งถึงความเร็วสูงสุดนั่นละครับ

แรงบิดในช่วงเร่งแซงนั้น มีมาให้เหลือเฟือ ชนิดที่แทบไม่ต้องเล่นเกียร์ในโหมด Steptronic บวก ลบ ช่วยแต่อย่างใด
แต่ถ้าจะเล่นในโหมดดังกล่าว ต่อให้คุณเหยียบคันเร่งจมมิด ลากรอบเครื่องยนต์ขึ้นไปจนถึงสุดปลายทาง เกียร์จะถูก
เปลี่ยนตำแหน่งขึ้นไปให้ เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในระยะยาว สิ่งที่ผมชื่นชอบในขุมพลัง N47 ก็คือ
เมือ่ไหร่ที่ผมต้องการพละกำลัง เพื่อการเร่งแซง เครื่องยนต์รุ่นนี้จะจัดสรรมาให้ผมเต็มเม็ดเต็มหน่วย แบบไม่อั้น
ไม่มีกั๊ก ปล่อยเต็ม จัดเต็ม ในแทบจะทุกช่วงความเร็ว ไม่ว่าจะเป็นเพียงแค่ พุ่งขึ้นไปแซงหน้ารถที่แล่นช้าอยู่บน
เลนซ้าย ถนนพหลโยธิน ความเร็ว 40 – 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง หรือจะเป็นช่วงที่แล่นหนีพวกขับเร็วจี้บั้นท้าย ในช่วง
100 – 140 กิโลเมตร/ชั่วโมง เป้นเครื่องที่มีความยืดหยุ่นค่อนข้างสูง

คันเร่งไฟฟ้า ตอบสนอง กำลังดี ไม่ช้าอย่างที่คิด ทำงานได้ตามสั่ง แต่ยังมีช่วงระยะห่าง ระหว่งรอรับคำสั่ง จนกระทั่ง
รถเริ่มทำงานตามสั่ง ราวๆ ไม่เกิน 0.5 วินาที ซึ่งถือว่าเป็นคันเร่งไฟฟ้า ที่ทำหน้าที่ของมันได้ไวตามเหตุและผล

การเก็บเสียงในช่วงความเร็วสูง ไม่ใช่ปัญหาของรถรุ่นนี้เลย จนกว่าคุณจะเริ่มปล่อยให้เข็มความเร็วบนมาตรวัด
เกินกว่าระดับ 140 กิโลเมตร/ชั่วโมงขึ้นไป เสียงกระแสลมไหลผ่านตัวรถ มีเล้ดรอดเข้ามาบ้าง และจะเริ่มดังขึ้นเรื่อย
อย่าง ไม่รบกวนนัก เมื่อความเร็วเพิ่มขึ้นมากกว่านี้ การเก็บเสียงในห้องโดยสารทำได้ดีมาก

ระบบกันสะเทือนของ X3 นั้น ด้านหน้าเป็นแบบ Double-joint spring-strut axle ส่วนด้านหลังเป็นแบบ 5 จุดยึด หรือ five-link
คราวนี้ในรุ่น HighLine จะมาพร้อมกับ ระบบ DDC Dynamic Damper Control ที่ทำหน้าที่ปรับความนุ่ม-แข็งของระบบช่วงล่าง
ซึ่งเป็นระบบ DDC ที่ยกชุดมาจาก ซีรีส์ 5 รุ่น 530d 525d และ 523i Highline มาแทบจะทั้งดุ้น!!!

Dynamic Damping Control ใช้ข้อมูลที่เก็บรวบรวมโดยเซ็นเซอร์รอบคันรถ ทั้งตำแหน่งของพวงมาลัย แรงลมปะทะด้านข้าง
ความเร็ว ในการหมุนของล้อ และอื่น ๆ โดยระบบจะคำนวณการตั้งค่าที่ดีที่สุดสำหรับแต่ละล้อ และปรับช่วงล่างอย่างต่อเนื่อง
ตามความเหมาะสม

เมื่อกดปุ่มควบคุมที่อยู่ข้างเกียร์ คุณสามารถเลือกและเปลี่ยนจากโหมด NORMAL อันเป็นการขับขี่แบบธรรมดาทั่วไป มาเป็น
โหมด SPORT ซึ่งพวงมาลัยจะหนืดขึ้น ช่วงล่างแข็งขึ้นเล้กน้อย หรือถ้ากดเปลี่ยนไปเป็น SPORT+ ระบบควบคุมเสถียรภาพ
ต่างๆ จะถูกปลดออกไป ให้คุณได้สนุกกับการขับขี่ในแบบที่คุณเชี่ยวชาญมากยิ่งขึ้น ซึ่งการทำงานของเครื่องยนต์จะตอบสนอง
ได้ทันใจมากขึ้น คันเร่งแอบไวขึ้นนิดเดียว ต้องสังเกตจึงจะเจอ เกียร์จะเปลี่ยนตำแหน่งลงต่ำให้ เพื่อเตรียมพร้อมรอให้คุณ
เริ่มเล่นกับรถ ลากรอบ หรือเข้าโค้ง ฯลฯ ได้ตามต้องการ

ใน Mode Normal นั้น ระบบกันสะเทือน นุ่มนวลมาก ในย่านความเร็วต่ำ ขณะขับขี่ในเมือง เวลาขับผ่านทางรถไฟ หรือหลุมบ่อ
ต่างๆ บนนถนนในกรุงเทพฯ ผมถึงกับตกใจ…โอ้โห! แม่เจ้าโว้ย ทำไมมันนุ่มอย่างงี้!! ต้องมองลงมาที่พวงมาลัยเลยว่า “ตกลงรถ
ที่เราขับอยู่นี่ มันเป็น BMW หรือเป็น Volvo กันแน่วะเนี่ย?” คือแต่ละครั้งที่ขับผ่านทางขรุขระ รถจะแล่นผ่านไปอย่างเรียบง่าย
ราวกับว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อนหน้านั้นเลย เนียนมากๆ! เป็นความนุ่มนวลที่มาพร้อมความหนึบแน่นมั่นใจ ในแบบที่ผม
อยากจะได้จาก SUV ทุกยี่ห้อ ทุกรุ่น ทุกคันนับจากนี้ไป เพราะนี่แหละ คือช่วงล่างที่เซ็ตมาดีที่สุด ในบรรดา SUV ทุกคันเท่าที่ผม
เคยลองขับมา

แต่พอใช้ความเร็วสูง ช่วงล่างใน Mode Normal ก็ยังรองรับการเดินทางได้ดี หากไม่มีกระแสลมมาปะทะด้านข้างรุนแรงนัก
ยังคงความนุ่มสบาย จัมพ์คอสะพานได้ดุจเทพเจ้าด้านช่วงล่าง แปลงกายลงมาทำงานอยู่ในรถ..ไม่ได้เวอร์ครับ คุณควรไป
ทดลองขับเองกับมือ ถ้าไม่เชื่อในสิ่งที่ผมเขียนนี่ละก็!

แต่ถ้าจะให้ดี การขับขี่ในความเร็วสูงนั้น ผมขอแนะนำให้ใช้โหมด Sport ซึ่งจะปรับช่วงล่างให้แข็งกว่าเดิมขึ้นอีกเล็กน้อย
มันจะเพิ่มความมั่นใจให้กับคุณได้มากขึ้นอีกนิดนึง โดยที่แทบไม่ต้องไปปรับปรุงช่วงล่างอะไรอีกเลย

ส่วนเรื่องของการเข้าโค้ง ด้วยความช่วยเหลือของระบบ xDrive และ Performance Control นี้ ผมลองด้วยวิธีง่ายๆ บนเส้นทางที่
หลายๆคนคงใช้อยู่แล้วในชีวิตประจำวัน และคงพอจะรู้อยู่ว่า ควรจะใช้ความเร็วให้ช้ากว่าปกติ โค้งที่ว่า อยู่บนทางด่วนขั้นที่ 1
ช่วงทางราบคลองเตย – บ่อนไก่ จะมีทางแยกรูปตัว W (คือ 3 ช่อง) 2 ช่องขวาสุด ขึ้นคร่อมโค้งซ้าย ตรงยาวมั่งหน้าไปบรรจบ
กับรถขาเข้ากรุงเทพฯ มุ่งหน้าไป ดินแดง – พระราม 9 ช่องกลาง จะเป็นทางโค้งกลาง มุดลง ไปออกได้ทั้งทางลง พระราม 4
และเชื่อมกับเส้นที่จะมุ่งหน้าไป ดินแดง – พระราม 9 ได้เหมือนกัน

แต่ โค้งที่ผมจะใช้ เป็นโค้งรูปตัว S มุ่งหน้าจากพระราม 3 ช่องนนทรี จะไปทางบางนา ซึ่งจะมีทางโค้งซ้าย แบบ 80 องศา
เว้นระยะให้รถพอจะถ่ายน้ำหนักกลับมาได้ ก็จะตามต่อด้วยโค้งขวารูปตัว C ยาวๆ แถมยังมีแค่ 2 เลน เรียกได้ว่า เป็นโค้ง
อันตรายอีกจุดหนึ่งของระบบทางด่วนเฉลิมมหานคร ขั้นที่ 1 กันเลยทีเดียว

โค้งที่ว่านี้ SUV ทั่วๆไปที่เคยผ่านมือผมมา แค่เข้าโค้งซ้าย ด้วยความเร็ว 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง รถก็เอียงกะเทเร่ และพร้อมจะเริ่ม
ออกอาการที่บั้นท้ายนิดนึงแล้ว  และพอเข้าสู่ช่วงโค้งขวาที่ลึกและยาว เป็นรูปตัว C ถ้าใช้ความเร็วนิ่งๆ 80 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้
มีอยู่ไม่กี่คันเท่านั้นที่จะรอดผ่านโค้งนี้ได้ โดยไม่ต้องชะลอความเร็วลง

แต่กับ X3 ใหม่ ผมพุ่งตรงก่อนเข้าโค้งด้วยความเร็ว 140 กิโลเมตร/ชั่วโมง ปล่อยไหลมาเรื่อยๆ จนถึงหน้าโค้ง ความเร็วในช่วง
เข้าโค้งซ้ายแรก  เข็มความเร็วอยู่ที่ 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งเท่ากับความเร็วที่ผมใช้เข้าโค้งนี้ ด้วยรถยนต์ Sedan 4 ประตูทั่วๆไป
ที่เซ็ตช่วงล่างมาในแนวสปอร์ตหน่อย พอถึงโค้งขวา ผมผ่อนให้หักเข้าไปด้วยความเร็ว  80 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่พอรถอยู่ในโค้ง
ผมเพิ่มความเร็วขึ้นเป็น 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง ถึงรถจะเอียง ยาง Piralli P Zero ก็พยายามจะทำหน้าที่ยึดเกาะถนนอย่างเต็มเหนี่ยว
โดยไม่ปริปากร้องโอดโอยให้ได้ยินเลยสักแอะ! ได้เห็นคุณประโยชน์ของการเพิ่มความกว้างช่วงล้อ (Track width) ทั้งล้อคู่หน้า
และคู่หลัง ให้กว้างขึ้น รวมทั้งการทำงานของระบบขับเคลื่อน xDrive กับ Performance Control เข้าไปด้วยแล้ว งานนี้ผมออก
จากโค้งที่ว่า ได้ด้วยความเร็วแถวๆ 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง และขอย้ำว่า ทั้ง 2 โค้ง ผมไม่ต้องแตะเบรกช่วยอะไรเลย!!

ยังไงๆ ก็ยังมีอาการเอียงกะเทเร่ให้ผมยังระลึกได้อยู่ว่า กำลังขับ SUV อยู่ดีแหละครับ เพียงแค่ว่า เข้าโค้งได้ด้วยความเร็วที่สูงกว่า
SUV ทั่วไปสักนิดหน่อย ด้วยความมั่นใจมากกว่ากันชัดเจน สัมผัสได้ถึงความหนึบ เฟิร์ม แต่ไม่กระด้าง ก็ประมาณนั้น

ด้านระบบบังคับเลี้ยวนั้น พวงมาลัยแบบแร็คแอนด์พีเนียน พร้อมเพาเวอร์ไฟฟ้า EPS Electronics Power Steering) ที่ปรับปรุงมาใน
แนวทาง EfficiencyDynamic คือสิ่งที่ทำให้ผมแปลกใจมาก ในแทบจะทันที ที่เคลื่อนรถออกจาก ศูนย์บริหารจัดการรถ Demonstration
ของทาง BMW Thailand แถวๆ ซอยต้นสน เพราะพวงมาลัยมันเบาม๊าก! แม้ว่าจะไม่ได้เบาโหวงอย่างที่เคยเจอมาใน BMW ซีรีส์ 7
รุ่น E65 / E66 (อันถือเป็น BMW ที่มีพวงมาลัยเบาที่สุดเท่าที่ผมเจอมา คือใช้นิ้วชี้ นิ้วเดียวหมุนพวงมาลัยขณะรถจอดหยุดนิ่งได้เลย)

ทว่า ความเบาะในการหมุนเลี้ยวพวงมาลัยนั้น มันเบาใกล้เคียงกับรถญี่ปุ่นระดับ B-Segment 1,500 ซีซี บางรุ่น และพอกันกับรถญี่ปุ่น
พิกัด C-Segment 1,600 – 2,000 ซีซี จากญี่ปุ่นบางรุ่นเลยเช่นเดียวกัน!! ไม่อยากเชื่อเลยว่า ในช่วงความเร็วต่ำ จากจุดหยุดนิ่ง จนถึงการ
เคลื่อนตัวไปตามสภาพการจราจรอันแสนจะจลาจล พวงมาลัยจะเบาได้มากขนาดนี้ ในช่วงความเร็วต่ำ ถ้าจะบอกว่า ความหนืดในช่วง
ความเร็วต่ำนั้น แทบจะพอกัน หรือหนืดหน่วงน้อยกว่า พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้าของ Nissan TIIDA คุณจะเชื่อไหม!!??

สิ่งที่ทำให้ประหลาดใจก็คือ ด้วยพวงมาลัยที่เบาสบายนี่แหละ ทำให้ผมสามารถ พา X3 ใหม่ มุดซอกแซก ไปตามตรอกซอกซอย เพื่อ
หนีสภาพการจราจรติดขัดบนถนนพญาไท ลัดเลาะไปออกถนนพระราม 6 ได้อย่างไม่พะวักพะวงต่อขนาดของรถมากนัก แม้จะ
ต้องคำนึงถึง ทัศนวิสัยด้านหน้าฝั่งซ้ายอยู่นิดหน่อย เพราะกลัวจะเอาไฟหน้าซ้าย ไปเสยกับท้ายรถคันอื่นเข้า ก็ตาม

แต่ในช่วงความเร็วสูง หากยังคงปรับช่วงล่างเอาไว้ในโหมด Normal การตอบสนองของพวงมาลัยแม้จะหนืดขึ้นมาเล็กน้อย และนิ่ง
พอให้คุณสามารถปล่อยพวงมาลัยได้ในขณะใช้ความเร็วระดับ 210 กิโลเมตร/ชั่วโมง อันเป็นความเร็วสูงสุด แต่คุณจะทำแบบนั้นได้
เฉพาะในเวลาที่ไม่มีกระแสลมปะทะด้านข้างเท่านั้น

เพราะถ้าคุณทำแบบนี้ บนทางยกระดับบูรพาวิถี ช่วงเวลาบ่ายๆ เย็นๆ ขณะที่มีกระแสลมปะทะด้านข้างยังมากอยู่ ไม่ต้องใช้ความเร็ว
สูงสุดหรอกครับ เอาแค่แถวๆ 120 – 140 กิโลเมตร/ชั่วโมง คุณจะพบว่า ด้วยพวงมาลัยที่น้ำหนักเบาไปในย่านความเร็วสูงนี้ ทำให้คุณ
ต้องใช้สมาธิในการประคองรถ มากพอกันกับรถญี่ปุ่นทั่วไปนั่นแหละ เพราะรถจะออกอากาศแกว่งซ้าย-ขวา นิดๆไปตามสภาพพื้น
ผิวถนนที่เป็นลอนคลื่น หรือตามแรงลมปะทะด้านข้างจนชัดเจน แต่คุณจะไม่พบเจออาการนี้เลย ถ้าคุณนำรถไปวิ่งด้วยความเร็วเท่ากัน
บนทางด่วนสายอุดรรัถยา หรือที่คุ้นกันดีว่าสายเชียงราก เพราะที่นั่นกระแสลมปะทะด้านข้าง น้อยกว่าเยอะ ดังนั้น กระแสลมปะทะ
ด้านข้าง ก็จะยังมีผลต่อการใช้ความเร็วสูงในรถคันนี้ ไม่ต่างกันกับรถญี่ปุ่นทั่วไปนะครับ

ถ้าถามว่า หากปรับช่วงล่างไปในโหมด Sport หรือ Sport + จะช่วยให้ดีขึ้นหรือไม่ คำตอบจากที่ผมได้ทดลองมาแล้ว ก็คือ พวงมาลัย
จะหยืดขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อย ตึงมือขึ้น บังคับเลี้ยวเข้าโค้งในความเร็วสูง ดี และมั่นใจในแบบที่ควรเป็น ซึ่งเพียงพอแล้วกับการ
ใช้ความเร็วพอสมควร ตามวิสัยของคนชอบขับรถเร็ว เพียงแต่ว่า ไม่ได้ช่วยลดอาการแกว่งเล็กๆ ที่เกิดขึ้นด้านหน้าของรถเลย เพราะ
มันไม่ใช่อาการที่จะแก้ไขได้จากการปรับพวงมาลัย หากแต่เป็นปัญหาที่มาจากเรื่องของอากาศพลศาสตร์ อันเกี่ยวข้องกับแรงลมที่
มาปะทะด้านข้างต่างหาก

แต่ถ้าถามว่า เป็นปัญหาใหญ่ไหม เอาอย่างนี้แล้วกัน ถ้าผมจะบอกว่า Mercedes-Benz E-Class W212 ใช้ความเร็วระดับเดียวกัน
บนทางยกระดับบูรพาวิถี ในยามบ่ายเหมือนกัน ก็มีอาการแกว่งเล็กๆ ซ้ายๆ ขวาๆ หน่อยๆ เหมือนกัน หรือไม่ต้องข้ามแบรนด์
ไปไกล เอา BMW ด้วยกันเนี่ยแหละ ขนาด X5 xDrive30d ผมยังเคยเจออาการแกว่งแบบนี้ ขณะที่ใช้ความเร็วในระดับแถวๆ
160 – 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง มาแล้วเลย ทั้งที่เป็นรถใหญ่ หนักก็หนักกว่า พื้นที่หน้าตัดในการแหวกอากาศก็มากกว่า ดังนั้น ใคร
ที่มาบอกว่า X3 ใหม่ร่อน ผมก็คงจะต้องถามเหมือนกับที่เคยถามในรถคันอื่นๆ มาแล้วนั่นละครับว่า คุณขับเร็วแล้วร่อน บน
ถนนหรือทางด่วนสายไหน? ถ้าเป็นบูรพาวิถี มันก็ร่อนออกซ้ายๆ ขวาๆ นิดๆ เหมือนกัน แทบจะทั้งนั้นละครับ ขึ้นอยู่กับว่า
เจอวันลมแรง หรือลมน้อย

เพราะในช่วงทำความเร็วสูงสุด ตอนกลางคืน หลัง 4-5 ทุ่มไปแล้ว ทางสายบูรพาวิถี จะแทบไม่ค่อยมีกระแสลม และผมก็ปล่อยมือ
จากพวงมาลัย X3 ใหม่ที่ความเร็ว 210 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ต่อเนื่องราวๆ 5-7 วินาที ก็ทางสายเดียวกันนั่นละครับ ต่างกันที่เวลา
และกระแสลมที่ะทะน้อยกว่ากันเยอะ ดังนั้น แสดงว่า จริงๆแล้ว ตัวของรถเองหนะ มันนิ่งแน่ๆ แต่ลมปะทะนั่นแหละที่จะทำให้
มันไม่นิ่ง เคลียร์นะครับ ในจุดนี้?

ระบบห้ามล้อเป็นแบบดิสก์เบรก แบบมีรูระบายความร้อน Single-Piston Floating Caliper ทั้ง 4 ล้อ โดยจานเบรกคู่หน้า มีเส้น
ผ่าศูนย์กลาง 328 มิลลิเมตร หนา 28 มิลลิเมตร ส่วนจานเบรกคู่หลัง เส้นผ่าศูนย์กลาง 330 มิลลิเมตร หนา 20 มิลลิเมตร ทำงาน
ร่วมกับทั้งระบบ DSC กับระบบขับเคลื่อน xDrive ไปจนถึงระบบป้องกันล้อล็อก ABS (Anti lock Braking System) ระบบช่วย
กระจายแรงเบรกขณะเข้าโค้ง CBC (Cornering Brake Control) ระบบควบคุมแรงเบรก DBC (Dynamic Brake Control)

อีกทั้งระบบเบรกของ X3 ใหม่ ยังเป็นแบบ Regenerative Brake เหมือนกับรถยนต์ HYBRID คือทันทีที่คุณเหยียบเบรก ระบบ
จะนำพลังงานจลย์ จากการเหยียบเบรก ไปก่อให้เกิดกระแสไฟฟ้า ไปเก็บไว้ในแบ็ตเตอรีของรถ เพื่อใช้ในการจ่ายไฟสู่อุปกรณ์
ต่างๆ ภายในห้องโดยสาร ยืดอายุการใช้งานของ แบ็ตเตอรีไปได้อีกพอสมควร

อันที่จริง การตอบสนองของระบบเบรกภาพรวม ถือว่าทำได้ดี การหน่วงความเร็ว ไม่ว่าจะเป็นระดับ ท็อปสปีด ลงมาเหลือเพียง
40 กิโลเมตร/ชั่วโมง หรือจะเป็นการขับแบบค่อยๆย่องไปในเมือง Stop & Go ให้ความมั่นใจ พร้อมกับความนุ่มนวลที่มีมาให้
กำลังเหมาะ สัมผัสได้ถึงความต่อเนื่อง แบบ Linear ค่อนข้างดี อาจจะขอแค่เพียงปรับปรุงแป้นเบรก ให้เพิ่มการตอบสนอง
ไวกว่านี้อีกนิดนึง ในช่วงจังหวะที่เริ่มลงน้ำหนักลงบนแป้นเบรกใหม่ๆ เพราะเมื่อเหยียบแป้นเบรกลงไปที่ระดับ 1 ใน 3 แล้ว
การทำงานของระบบเบรก ก็ยังเป็นไปด้วยความราบรื่น และมั่นใจได้ระดับหนึ่ง

ส่วนเรื่องโครงสร้างตัวถังและความปลอดภัยนั้น เนื่องจาก BMW AG ไม่ได้กล่าวถึง หรือระบุเอาไว้ในเอกสารที่แจกสื่อมวลชน
ไม่ว่าจะเป็นในเวอร์ชันต่างประเทศ หรือเวอร์ชันไทย อีกทั้งขณะนี้ ทาง EURO NCAP ก็ยังมิได้ทำการทดสอบการชน ของ X3
รุ่นใหม่เอาไว้เลย จะมีก็แค่รถรุ่น E83 ในปี 2008 เท่านั้น ซึ่งก็คงใช้อ้างอิงไม่ได้ ดังนั้น คงเป็นเรื่องยากที่จะไปค้นหาข้อมูลมา
ให้ได้อ่านกัน จึงยังไม่มีเรื่องราวเกี่ยวกับโครงสร้างตัวถังมานำเสนอในรีวิวนี้

********** การทดลองหาอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย **********

ในเมื่อ X3 xDrive20d รุ่นเดิม สร้างมาตรฐานใหม่ในด้านความประหยัดน้ำมัน ให้กับบรรดา SUV ทั้งหลาย ด้วยตัวเลข
วิ่ง 110 เปิดแอร์ นั่ง 2 คน แล่นทางไกล ทำได้ 16.7 กิโลเมตร/ลิตร มาแล้ว ดังนั้น X3 xDrive20d รุ่นใหม่ จะยังคงรักษา
ตำแหน่งจ่าฝูงในด้านความประหยัดของกลุ่ม SUV ได้อีกหรือไม่? นั่นก็เป็นภาระอันหนักอึ้งอยู่เหมือนกันนะ

เรายังคงใช้วิธีการดั้งเดิม ในการหาอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย สำหรับรถยนต์ ที่ใช้เครื่องยนต์ Diesel เราพา X3 ใหม่
ไปที่สถานีบริการน้ำมัน Shell ปากซอยอารีย์ ใต้สถานีรถไฟฟ้า BTS อารีย์ ถนนพหลโยธิน เติมน้ำมัน Shell V-Power
Diesel B5 จนเต็มถัง หัวจ่ายตัด ก็พอ

เมื่อเรียบร้อยแล้ว Set 0 บน Trip Meter เริ่มติดเครื่องยนต์ คาดเข็มขัดนิรภัย ออกเดินทาง เลี้ยวกลับมา มุ่งหน้าเลี้ยวซ้าย
เข้าซอยอารีย์ ลัดเลาะ ทะลุออกโรงเรียนเรวดี แล้วข้นทางด่วน ที่ด่านพระราม 6 มุ่งหน้าไปยังปลายสุดทางด่วนอุดรรัถยา
เลี้ยวกลับมาย้อนขึ้นทางด่วน มุ่งหน้ากลับมายังถนนพหลโยธินตามเดิม ด้วยความเร็ว ไม่เกิน 110 กิโลเมตร/ชั่วโมง
เปิดแอร์ และนั่ง 2 คน สักขีพยานของผมวันนี้ คือเจ้ากล้วย BnN ที่มีน้ำหนักตัวเพียง 48 กิโลกรัม เท่านั้น

เมื่อลงทางด่วนที่อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิแล้ว เราเลี้ยวซ้ายเข้าถนนพหลโยธิน ตรงไปจนเลี้ยวซ้ายเข้าปั้ม Shell เติมน้ำมัน
V-Power Diesel B5 เต็มถัง เอาแค่หัวจ่ายตัดพอ และยังเติมที่หัวจ่ายเดิมอีกด้วย เพื่อให้ได้มาตรฐานที่ลดความผิดเพี้ยน
น้อยที่สุด

มาดูกันดีกว่า ว่ารถคันนี้จะทำตัวเลขออกมาได้เท่าใดกัน
ระยะทางที่แล่นไปทั้งหมด 94.5 กิโลเมตร

ปริมาณน้ำมันเติมกลับ 5.73 ลิตร

อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 16.49 กิโลเมตร/ลิตร ก็ยังถือว่าประหยัดอยู่ในเกณฑ์เดียวกันกับ BMW ขุมพลัง Diesel Turbo
รุ่นอื่นๆ ที่เราเคยทำรีวิวกันมาก่อนหน้านี้ แต่ถืิอว่าน่าตกใจ สำหรับ SUV ระดับหรูทั่วไป น้อยคันที่จะทำตัวเลขได้ดีเท่านี้

ถ้าดูจากตัวเลข เปรียบเทียบกัน จะเห็นว่า รถรุ่นใหม่ ทำตัวเลข ด้อยกว่ารถรุ่นก่อน เพียงแค่ 0.3 กิโลเมตร/ลิตรเท่านั้น อันเป็น
ผลสืบเนื่องที่น่าจะมาจากการเติมน้ำมัน ซึ่งมีโอกาสผิดเพี้ยนได้สูง มากกว่าที่จะโทษในประเด็นอื่นใด

และถ้าคุณยังสงสัยว่า น้ำมัน 1 ถัง จะพาคุณ แล่นไปได้ไกลกี่กิโลเมตร ผมก็ทดลองให้คุณ โดยการเซ็ต 0 บน Trip meter ตั้งแต่
ออกจากปั้มน้ำมัน Caltex มาใช้งานในชีวิตประจำวัน ซึ่งเรียนตามตรงว่า มีทั้งขับเร็วระดับ 80 – 140 กิดลเมตร/ชั่วโมง และมี
ช่วงที่เหยียบหนักๆ ทำคลิป ทำความเร็วสูงสุดกัน แม้แต่คลานไปในสภาพการจราจรติดขัด กลางสยามสแควร์ ตัวเลขที่รถคันนี้
แล่นไปได้ทั้งหมดคือ 417 กิโลเมตร และยังมีน้ำมันเหลืออยู่ในถัง น้อยกว่าครึ่งหนึ่ง แต่ ต่ำกว่าขีดครึ่ง มาเพียงแค่นิดเดียว
แล้วถ้าคุณขับรถคันนี้ ในแบบที่คนทั่วไปเขาขับกัน มันจะประหยัดขนาดไหนกันละเนี่ย? น้ำมัน 1 ถังอาจวิ่งได้ 800 กิโลเมตร!!

********** สรุป **********
*** Premium SUV ที่ แรง ประหยัดน้ำมัน และคุ้มที่สุดในระดับ 3 – 4 ล้านบาท อยู่ตรงนี้แล้วละ! ***

ระหว่างกำลังค่อยๆ พาเจ้า X3 คันสีเทา A52 Space grey คลานขึ้นลานจอดรถ ของอาคารแห่งหนึ่ง ในซอยต้นสน ย่านชิดลม
เพื่อส่งคืนให้กับ ศูนย์จัดการรถยนต์ส่วนกลางของ BMW Thailand ที่ย้ายไปตั้งอยู่เอกเทศ จากสำนักงานใหญ่ ออลซีซัน ลุมพินี
ผมก็เกิดความรู้สึกหนึ่ง ซึ่งมีมาให้พบเจอไม่บ่อยนัก….(แม้ว่าพักหลัง คุณจะเจอผมเขียนถึงในลักษณะนี้ บ่อยอยู่ก็ตาม)

ความรู้สึก “ไม่อยากคืนรถ” กลับมาเยือนอีกแล้ว

พลางนึกย้อนให้หลังไปในรอบ 2 ปีมานี้ ออกจะแปลกใจตัวเองอยู่ไม่น้อยเลยว่า มี BMW หลายคันที่ผมไม่อยากคืนรถ ถ้าจะ
นับกันจริงๆ ก็มีทั้ง 730 Ld ตามด้วย Z4 ใหม่ ไปจนถึง ซีรีส์ 5 ใหม่ F10 ทั้ง 4 คันรวด และยังไม่นับ 320d Saloon อีก 2 คัน
แถมด้วย 325i เปิดประทุน อีก 1 คัน ส่วน 320 d Coupe อุปกรณ์ ให้มายังไม่ครบพอเมื่อเทียบกับค่าตัว ส่วน 325i Coupe แม้จะ
มีอุปกรณ์เกือบครบ สมรรถนะดี แต่ผมก็ยังติในความยากลำบากที่ต้องประคองพวงมาลัยอันหนักและดิ้นไปดิ้นมา จนเหนื่อย
ในการบังคับรถ

แต่สำหรับ X3 รถที่ผมไม่เคยคิดจะเหลียวแลมันอีกเลย หลังจากคืนกุญแจไปเมื่อปี 2007 แทบไม่คิดอยากจะยุ่งอีกเลย แม้ว่า
จะมีรุ่นใหม่ F25 โผล่มาเปิดตัวในบ้านเรา ผมคิดและมองว่า มันก็คงจะดีขึ้นกว่ารุ่นเดิมได้ไม่เท่าไหร่หรอก หน้าตาของมัน
ก็ไม่ได้ชวนให้เกิดความอยากลองขับเท่าไหร่เลย

พอจับพวงมาลัย ออกรถ และใช้ชีวิตด้วยกันเพียงแค่วันเดียวเท่านั้นแหละ ผมก็เข้าใจในทันที และยิ่งเชื่อมั่นในคำพังเพย
ที่ว่า “อย่าตัดสินกันแค่สิ่งที่คุณเห็นด้วยตาเปล่า”

แม้ว่ารุปลักษณ์จะไม่ถึงกับสวยในสายตาผม แต่ X3 ใหม่ ถูกปรับปรุงให้ดีกว่าเดิม ทุกสิ่งที่ผมเคยก่นด่า ตำหนิติติงไป วันนี้
BMW ยกระดับ และแก้ไขปัญหาเก่าๆ ไปได้เยอะมาก วัสดุในห้องโดยสารดีขึ้น ตำแหน่งนั่งขับถูกแก้ไขให้นั่งสบายขึ้น
ในการเดินทางไกล มีลูกเล่นและอุปกรณ์มาให้ สมราคา ที่ประเสริฐไปกว่าอื่นใด ก็คือ ช่วงล่าง ซึ่งได้ใจผมไปเต็มๆ แบบ
ที่ไม่ได้คาดคิดหรือตั้งตัวมาก่อนเลยว่า จะได้เจอช่วงล่างที่กลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ สำหรับใครที่คิดจะทำ SUV ออกมาขาย
นับจากนี้ไปเลยทีเดียว! แถมพกมาด้วย สมรรถนะและการควบคุมที่เกินกว่าคำว่า โดนใจ ไปมากยิ่งกว่าที่ผมเคยคิดมาก่อน

SUV ที่ให้อัตราเร่งแซง แรงสมดังใจคุณได้ในระดับพอกันนี้ ก็เห็นจะมีแค่ Lexus RX350 ใหม่ แต่คุณก็ต้องจ่ายเพิ่มอีกเป็น
5,300,000 บาท เพื่อแลกกับรถที่ใหญ่ขึ้น เครื่องยนต์ โตขึ้น และไม่ประหยัดเท่า X3 ใหม่นี้ แถมยังอุ้ยอ้ายกว่า ไม่คล่องตัวเท่า
อีกคันหนึ่ง ที่น่าจะใกล้เคียงกันได้คือ Mazda CX-9 แรงไล่เลี่ยกัน ใหญ่โตกว่า นั่งสบายได้ตั้ง 3 แถว (X3 ได้แค่เบาะ 2 แถว)
แต่อย่าหว้ังจะหาความประหยัดน้ำมันจากรถใหญ่เครื่อง 3.7 ลิตรเลยครับ หรือไม่เช่นนั้น ก็ต้องปีนขึ้นไปเล่น X5 กับ x6 แม้
จะใช้ขุมพลัง Diesel Common Rail Turbo เช่นกัน แต่ค่าตัวก็ปาเข้าไป 6 ล้านกว่าบาท ส่วนรุ่นอื่นๆที่เหลือในตลาด SUV ที่มี
ค่าตัวต่ำกว่า 4 ล้านบาทหนะเหรอ เฮ้!เลิกพูดกันไปเลยเถอะ ไม่มีทางที่จะหาใครแรงเท่า แถมยังประหยัดได้ เท่าเจ้าหมอนี่
อีกแล้วละ!

เห็นแล้ว ผมละนึกสงสารใครก็ตามที่ตัดสินใจซื้อรถรุ่นก่อนหน้านี้ไป ในราคา 3,299,000 บาท ซึ่งไม่มีอะไรให้มาคุ้มราคา
เท่าไหร่เลย ในช่วงก่อนหน้านี้ ผมได้แต่บอกว่า ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ คุณตัดสินใจ เร็วไป ราวๆ 3 ปี (แต่ ป่านนี้
หลายๆคน ก็คงขายนต่อ X3 รุ่นเดิม เป็นรถมือสองกันไปเยอะบ้างแล้วมั้งเนาะ?)

แต่ถ้าจะให้นึกถึงข้อที่ควรจะนำไปปรับปรุงต่อเพิ่มเติมได้อีกละ? ผมต้องใช้เวลานึกให้นานกว่าปกติสักหน่อย

นอกเหนือจากชุดไฟหน้า ที่ยังมีกรอบนอก ออกแบบมาได้ไม่โดนใจผมเท่าไหร่เลยแล้ว ยังมีเรื่องตำแหน่งเบาะหลัง
ที่แม้จะสะดวกสบายสำหรับการเข้าไปนั่ง แต่ในการเดินทางไกล หากต้องนั่งชันขาแบบนี้ไปนานๆ ความเมื่อยล้า
ก็จะมาเยือนผู้โดยสารด้านหลัง ซึ่งมักจะเป็น ท่าน ส.ว. (สูงวัย) หรือไม่ ก็จะเป็นเด็กๆ ที่มักไม่ค่อยจะมีปากเสียง
บ่นอะไรได้มากมายนัก

การออกแบบแผงหน้าปัดฝั่งซ้าย ฟังดูไม่ใช่เรื่องจำเป็นนัก แต่ ถ้าสามารถทำได้ โดยที่ต้นทุนไม่เพิ่มขึ้นไปกว่าเดิมนัก
เพราะยังสามารถใช้แผงควบคุม และชุดมาตรวัดเดิม ได้ ผมว่า นั่นน่าจะช่วยให้นยอกจากคนขับจะมีความสุขกับรถของ
พวกเขาแล้ว ผู้โดยสาร ก็จะไม่รู้สึกอึดอัดทางสายตาระหว่างเดินทางอีกด้วย มันเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่พอดีว่า ข้าพเจ้า
เป็นพวกชอบลงรายละเอียกปลีกย่อย กว่าชาวบ้านเขาสักหน่อย ก็แค่นั้นเอง

สิ่งที่นึกออกขึ้นมาได้อีกเรื่อง ก็คือ การเซ็ตพวงมาลัย ที่เบากำลังดีแล้วในช่วงความเร็วต่ำ แต่เบาไปนิดนึงในย่านความเร็วสูง
ผมอยากเห็น น้ำหนักพวงมาลัยที่หนืดมากขึ้นกว่านี้อีกในโหมด Sport และ Sport + เพราะนั่นจะยิ่งช่วยให้คนพวกที่ชอบ
ขับรถเร็วๆ ได้มั่นใจเพิ่มมากขึ้น ขณะที่จำเป็นต้องขับรถผ่านพื้นที่ ซึ่งมีกระแสลมปะทะด้านข้าง เยอะกว่าปกติสักหน่อย

รวมทั้ง การจัดการด้านอากาศพลศาสตร์  ด้วยโจทย์ที่ว่า ทำอย่างไร ให้เปลือกกันชนหน้า มีส่วนช่วย กดหน้ารถเพิ่มขึ้นกว่านี้
อีกสักหน่อย ขณะแล่นด้วยความเร็วสูง แต่มันจะต้องไม่ไปครูดกับพื้นที่ลาดชัน เมื่อเจ้าของรถคนเดียวกัน อยากพามันไป
ปีนป่ายถนนออฟโรด มันเป็นเรื่องที่ยากมากๆ แต่เชื่อว่า ระดับวิศวกรมันสมองของ BMW แห่งเมืองมิวนิค เรื่องแค่นี้
ถ้าแก้ไม่ได้ก็ไม่ใช่พวกเขาแล้วละ!

ดูเหมือนว่าจะมีเรื่องให้แก้ไขเพิ่มเติม เพียงเท่านี้แล้วละ!

Previous Post

N2807006_กรยานไปส งเธอไปโรงเร ยนท กว นไม าฝนจะตกแดดจะออก_part2

Next Post

N2807002_หญ งต ดต งกล อง วในบ านเพ อจ บภาพแฟนก บเพ อนสน ทนอกใจ_part2

Next Post
N2807002_หญ งต ดต งกล อง วในบ านเพ อจ บภาพแฟนก บเพ อนสน ทนอกใจ_part2

N2807002_หญ งต ดต งกล อง วในบ านเพ อจ บภาพแฟนก บเพ อนสน ทนอกใจ_part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N1908002_ในว_นท__เธอค_ดว_าเจ_บท__ส_ด กล_บเป_นจ_ดเร__มต_นของความจร_งท__งหมด_ _1632__1164582738810981_part2
  • N1908001_งท เธอค นพบในค นน นเปล ยนโชคชะตาของเธอไปตลอดกาล_part2
  • N1908005_ความเง ยบน อนความล บท อาจทำลายท กอย างท อย_part2
  • N1908008_คล ปน จะเปล ยนช ตค ณได หร อเปล มาด นว าม อะไรซ อนอย_part2
  • N1908004_เธอหน จากความเจ แต ความล บจากอด ตกล บตามหลอกหลอนเธออ กคร_part2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • August 2025
  • July 2025
  • June 2025
  • May 2025
  • April 2025
  • March 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.