ารแข่งขันของบรรดาค่ายยานยนต์ชั้นสูงยุคนี้ มีความแตกต่างจากอดีตตรงที่ข่าวสารต่างๆ เป็นที่รับรู้กันอย่างรวดเร็วในวงกว้าง ทำให้บริษัทผู้จำหน่ายต่างพยายามเร่งนำรถที่เพิ่งเปิดตัวในต่างประเทศมาจำหน่ายที่ประเทศไทยโดยเร็วที่สุด ซึ่งในปี 2024 นี้ มาดูกันว่ามียนตรกรรมจากยุโรปแบรนด์ใดน่าสนใจบ้าง
เริ่มต้นกันที่ BMW ค่ายรถยนต์พรีเมียมจากเยอรมนี เจ้าของสถิติยอดจดทะเบียนสูงสุดในกลุ่มรถยนต์ชั้นสูงของปี 2023 ค่ายนี้มีรถรุ่นใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจออกมาให้ชมกันได้ทุกปี ซึ่งแนวทางการทำตลาดของแบรนด์ก็สอดคล้องกับยุคสมัยโดยมุ่งเน้นการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า แต่ก็ยังจำหน่ายรถยนต์ดีเซลหรือ PHEV ควบคู่กันไปด้วย ทำให้ BMW สามารถตอบโจทย์ผู้รักรถยนต์ได้ทุกเพศทุกวัย
อ่านเพิ่มเติม: TADA แพลตฟอร์มบริการเรียกรถจากสิงคโปร์ ที่ไม่คิดค่าคอมมิชชั่น
Bên trên BMW iX2 xDrive30 M Sport
BMW iX2 xDrive30 M Sport
1 / 1
ล่าสุดหลังจากนำ BMW i5 ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้ามาจำหน่ายในปีที่แล้ว ปี 2024 นี้ BMW ก็สานต่อซีรีส์ 5 ประเภทที่มีเครื่องยนต์ ประเดิมด้วย 520d ซึ่งใช้เครื่องยนต์ B47 แต่ได้มีการปรับมาตรฐานมลภาวะเป็นยูโร 6 ทำให้ต้องมีการเติม AdBlue เช่นเดียวกับ X5 ดีเซลที่เริ่มใช้ไปก่อนหน้านี้ พร้อมติดตั้งระบบ mild-hybrid 48V ซึ่งมีมอเตอร์ช่วยขับชุดเล็ก เพื่อช่วยลดมลภาวะมากกว่าเรื่องกำลัง
อย่างไรก็ดี ในส่วน PHEV ไฮบริดเสียบปลั๊กชาร์จ ยังต้องดูทิศทางต่อไปว่า BMW จะเลือกรุ่นใดเข้ามาทำตลาดในไทย ระหว่าง 530e เครื่อง 4 สูบ 299 แรงม้า หรือ 550e 6 สูบ 496 แรงม้า ซึ่งเป็นขุมพลังที่ใช้อยู่แล้วใน X5 xDrive50e รุ่นปัจจุบัน
แต่หากไม่ชอบรถใหญ่ ก็เตรียมพบกับ BMW iX2 ซึ่งเป็นครอสโอเวอร์ขนาดเล็กไซส์ซิตี้คาร์ หรือกล่าวได้ว่าก็คือ X2 เจเนอเรชั่นใหม่นั่นเอง แต่ด้วยสไตล์ BMW ยุคใหม่ที่มักนำเวอร์ชั่น EV มาจำหน่ายก่อนเวอร์ชั่นเครื่องยนต์เสมอ ตัวรถคันจริงจึงเพิ่งเผยโฉมต่อชาวโลกเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ดังนั้น ภายในปีนี้ผู้ที่ชื่นชอบ BMW จะได้สัมผัสกันอย่างแน่นอน
Bên trên 024 BMW i5 eDrive40 M Sport
024 BMW i5 eDrive40 M Sport
1 / 1
จาก BMW มาถึงแบรนด์หรูโลโก้ดาวสามแฉก หลังจากที่รอกันข้ามปีและข้ามพ้นปัญหาชิปขาดแคลน รวมถึงเรื่องโลจิสติกส์ในยุโรป ก็มั่นใจได้ว่าในปี 2024 คนไทยจะได้เป็นเจ้าของ All New E-Class ใหม่ ซึ่งแม้ว่าหน้าตาภายนอกไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก แต่หลังจาก BMW มีการออกแบบซีรีส์ 5 แบบจัดเต็มจนแม้แต่ลูกค้าอนุรักษ์นิยมยังต้องหวั่นไหว ก็เปิดโอกาสให้ Mercedes-Benz สร้างยอดขายขึ้นมาได้บ้าง โดยรุ่นที่จะวางจำหน่ายคงหนีไม่พ้น E 220 d ขุมพลังดีเซล OM654 ที่มาพร้อมกับระบบ mild-Hybrid 48V ซึ่งผ่านการวิจัยพัฒนา และใช้มานานกว่า 2 ปีแล้วใน C-Class รุ่นใหม่
ส่วนผู้นิยมรถไฟฟ้าก็ต้องรอดูต่อไปว่า Mercedes-Benz Thailand จะนำรุ่นใดเข้ามาจำหน่ายระหว่าง E 300 e ที่ขับเคลื่อนล้อหลัง 313 แรงม้า โดยใช้ขุมพลังทั้งชุดร่วมกับ C 350 e และ GLC 350 e ที่มีขายอยู่แล้ว หรือรุ่น E 400 e 381 แรงม้า ที่มีจุดเด่นด้านพลัง โดยเครื่องยนต์สันดาปเป็นบล็อกเดียวกับ E 300 e ที่นำมาจูนพลังเพิ่ม และได้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อมาด้วย แต่ไม่ว่าจะเป็นขุมพลังแบบใด จุดเด่นที่น่าจะสร้างความพึงพอใจมากให้กับผู้รักรถยนต์ E-Class W214 ก็คือการเป็น Mercedes-Benz รุ่นแรก ที่ไม่ใช่รถไฟฟ้าตระกูล EQ แต่ได้ใช้แดชบอร์ด 3 จอขนาดใหญ่แบบ super screen ซึ่งเป็นแบบเดียวกับ EQS
ส่วนทางสายการผลิต Mercedes-AMG ที่โดดเด่นเรื่องดีไซน์สปอร์ตโฉบเฉี่ยว จะมีสปอร์ตสุดแรงอย่าง AMG GT ราคาหลักสิบล้านขึ้นไป โดยรูปลักษณ์ภายนอกของ GT เจเนอเรชั่นนี้แม้ไม่ต่างจากรุ่นก่อนมากนัก แต่โครงสร้างเมื่อแชร์กับ Mercedes-AMG SL ทำให้ GT กลายเป็นรถ 2+2 ที่มีพื้นที่เบาะหลังขนาดเล็กเพิ่มเข้ามา ตอบโจทย์การใช้งานได้ครอบคลุม และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันกับ Porsche 911 ได้มากยิ่งขึ้น โดยขุมพลัง AMG GT ขณะนี้ ประกอบด้วย V8 4.0 ลิตร เทอร์โบคู่ล้วนๆ ได้แก่ GT 55 476 แรงม้า และ GT 63 4MATIC+ 585 แรงม้า และอนาคตจะมีขุมพลัง GT 43 4 สูบ 2.0 ลิตรจาก SL 43 และระดับแรงสุดเป็น V8 ที่มีพลังมอเตอร์ปลั๊กอินเพิ่มเข้ามา
Bên trên 2024 Mercedes-AMG GT Coupe ขับเคลื่อน AWD กำลัง 577 แรงม้า
2024 Mercedes-AMG GT Coupe ขับเคลื่อน AWD กำลัง 577 แรงม้า
1 / 1
สำหรับค่ายยนตรกรรม Audi ซึ่งมีโลโก้สี่ห่วงหรูหรา แม้ข่าวคราวเงียบงันไปบ้าง และเป็นปีที่ต้องโบกมือลา iconic car อย่าง TT ไลน์อัพของ Audi ประเทศไทยในปัจจุบันก็นับว่ายังพอรักษาระดับยอดจำหน่ายไว้ได้ โดยช่วงครึ่งแรกของปีอาจไม่มีอะไรใหม่นัก จะมีก็แต่ Q8 SUV ทรงเฉี่ยวขนาดใหญ่ ซึ่งมีการอัปเดตไปเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว โดยเป็นการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แต่ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนขุมพลังใดๆ ซึ่งหากมีจำหน่ายในเมืองไทยปีนี้ก็คงเป็นไปในแนวทางเดียวกัน
ส่วน Porsche ค่ายยนตรกรรมชั้นสูงที่แม้ลมหายใจเข้าออกจะเป็นรถสปอร์ตสุดหรู แต่กลับมีรุ่นที่ทำยอดจำหน่ายได้ดีเป็น SUV และรถยนต์พลังไฟฟ้า (EV) โดยเฉพาะ Porsche Taycan แม้จะออกมาร่วมสี่ปีแล้ว แต่จุดเด่นของตัวรถ EV รุ่นนี้ยังสร้างความประทับใจแก่ผู้ที่ได้ลองสัมผัสอยู่เสมอ และในปี 2024 นี้ Taycan จะมีการปรับเปลี่ยนเพียงเล็กน้อย และยังมาพร้อมกับข่าวสำคัญที่ว่า Porsche ได้ซุ่มทดสอบรถยนต์ตามที่สื่อฝั่งยุโรปเรียกกันว่า “Taycan Turbo GT”
รายละเอียดเกี่ยวกับ Turbo GT นี้ ทาง Porsche ได้วางตำแหน่งทางการตลาดในระดับที่สูงกว่ารุ่น Turbo S ในปัจจุบัน และมีแนวโน้มที่จะจำหน่ายแบบจำกัดจำนวน โดยรุ่น Turbo GT จะมีสมรรถนะที่สูงยิ่งขึ้นด้วยชุดมอเตอร์คู่ที่ให้พละกำลังรวมกว่า 800 แรงม้า เมื่อนำมาทดสอบวิ่งพบว่าทำเวลาได้เร็วกว่า Turbo S ได้ถึง 26 วินาที
Bên trên 2024 Audi SQ8 TFSI Waitomo Blue
2024 Audi SQ8 TFSI Waitomo Blue
1 / 1
สิ้นสุดข่าวคราวยนตรกรรมจากเยอรมนี ลองมาดูฝั่งสวีเดนบ้าง Volvo ประเทศไทย ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างดียิ่งในการจำหน่ายรถยนต์พลังไฟฟ้าที่เติบโตขึ้นจาก 35% เป็น 56% ของยอดขายรถทั้งหมด ขณะที่ภาพรวมของค่ายก็ไปได้สวย โดยเติบโตขึ้น 24%
นอกจากนี้ ช่วงที่ผ่านมา XC40 กับ C40 ก็ได้ปูทางโลกยานยนต์ EV ให้ Volvo ไว้อย่างดี ตามมาด้วยการโชว์ตัวรถเล็กเจ้าเสน่ห์อย่าง EX30 ที่จะเริ่มมีการส่งมอบในต้นปี 2024 และสำหรับ Volvo ประเทศไทย ก็ได้เตรียมนำ EX90 SUV ซึ่งเป็นรถ EV ขนาดใหญ่สุดของค่ายเข้ามาจำหน่ายหลังเกิดความล่าช้ามานานจากปัญหาชิ้นส่วนสมองกลขาดแคลน โดย EX90 เป็นรถขนาด 7 ที่นั่ง มีรูปทรงคล้ายกับ XC90 แต่ได้รับการออกแบบให้ทันสมัยขึ้น พร้อมมอเตอร์คู่ซึ่งแบ่งระดับออกเป็น 403 และ 517 แรงม้า
ส่วนทางค่ายรถยนต์ฝั่งอังกฤษ Lotus ซึ่งเดิมเป็นผู้ผลิตรถสปอร์ตน้ำหนักเบาที่ล้มลุกคลุกคลานมาพักใหญ่ ก็กลับมาสร้างชื่อด้วยรถ EV อย่าง Eletre และ Emeya จนกล่าวได้ว่า หาก Emira ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์สันดาปภายใน ทำมาเพื่อเอาใจคนรัก Lotus แบบดั้งเดิม Eletre และ Emeya ก็คือรถที่พาบริษัทเข้าสู่ยุคใหม่ เจาะลูกค้ากลุ่มใหม่ โดยในปี 2024 นี้ Emeya R รถไฟฟ้าพลัง 918 แรงม้า ก็จะถูกนำเข้ามาจำหน่ายที่ประเทศไทยในราคาที่คาดการณ์ว่า “ไม่หนีไปจาก Eletre” จึงนับเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ด้วยราคาที่ไม่ต่างจาก Mercedes-EQS หรือ BMW i5 มากนัก และยังสามารถได้ลูกค้าที่อาจไม่อยากรอ Porsche Taycan ได้อีกด้วย
รถแรงจากอังกฤษอีกค่ายอย่าง McLaren ก็ไม่น้อยหน้า ปลายปีที่ผ่านมา หลังรุ่น 750S เปิดตัวในต่างประเทศ ก็ได้เผยโฉม McLaren GTS ที่ถูกวางตำแหน่งทางการตลาดในระดับต่ำกว่า 750S โดย GTS เน้นความสะดวกสบายในการขับทางไกลแบบ Grand Tourer มากขึ้น นั่งสบายกว่า และ มีที่เก็บข้าวของได้มากกว่ารุ่น GT
GTS ยังใช้เครื่องยนต์และโครงสร้างหลักเหมือนเดิม หรือจะเรียกว่าเป็น GT เวอร์ชั่นไมเนอร์เชนจ์ก็ไม่ผิดนัก โดยจะมีน้ำหนักเบาลงราว 10 กิโลกรัม แต่เครื่องยนต์ M840TE ถูกจูนให้มีพละกำลังเพิ่มจาก 620 เป็น 635 แรงม้า และคาดว่าจะมีการเปิดตัว GTS ในเมืองไทยภายในปีนี้
Bên trên 2024-mclaren-750s สานต่อนวัตกรรมสุดยอดสมรรถนะของรุ่น 720ss ที่ประสบความสำเร็จอย่างดงาม
2024-mclaren-750s สานต่อนวัตกรรมสุดยอดสมรรถนะของรุ่น 720ss ที่ประสบความสำเร็จอย่างดงาม
1 / 1
ข้ามมาที่ฝั่งอิตาลีกับซูเปอร์คาร์ Ferrari ซึ่งในปีที่ผ่านมา เราได้เห็นรถพิกัดเล็กของค่ายอย่างเช่น Roma Spider และรถไฮบริดอย่างตระกูล 296 มาเผยโฉมที่ประเทศไทยไปแล้ว รวมถึงรถ SUV/Crossover รุ่นแรกของค่ายอย่าง Purosangue เป็นต้น ในปี 2024 นี้จะมีรถยนต์ที่น่าตื่นตาตื่นใจมาให้ติดตามเช่นเคย ประเดิมด้วยยานยนต์ที่จะมาสานต่อตำนาน LaFerrari ซึ่งแน่นอนว่าต้องเป็นไฮเปอร์คาร์พลังไฮบริด ที่น่าจะแรงและเร็วกว่าเดิมยิ่งขึ้นไปอีก
แม้จะยังไม่ทราบชื่อของยานยนต์รุ่นใหม่นี้ แต่แนวทางหลักก็ยังเป็น V12 วางด้านหน้าเหมือนเดิม แต่จะเปลี่ยนไปเป็นรถไฮบริดแบบเสียบปลั๊กชาร์จได้ เพราะนโยบายหลักของ Ferrari ยุคใหม่คือการสร้างรถที่ปล่อยมลภาวะในยามใช้งานน้อยลง ขณะที่สมรรถนะและความร้ายกาจก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า 812 แน่นอน
มาดูกันต่อที่ Lamborghini ซึ่งปีที่ผ่านมาผู้จำหน่ายในไทยทำงานกันเร็วเป็นพิเศษ จนสามารถเปิดตัวซูเปอร์คาร์ V12 อย่าง Revuelto หลังการเปิดตัวในตลาดโลกเพียง 3 เดือนเศษ นั่นหมายความว่ารุ่นอื่นๆ ที่จะตามมาก็ไม่ต้องคอยนานอีกต่อไป
ในปี 2024 แม้ Huracan ได้เวลาปลดระวางตัวเอง เนื่องจากออกสู่ตลาดมาจวนครบทศวรรษกลางปีนี้ จึงต้องมีเจเนอเรชั่นใหม่มาแทน ข่าวดีแรกก็คือ รูปทรงโดยรวมยังคงรักษาเส้นสายแบบที่คุณประทับใจใน Huracan เดิม ข่าวดีต่อมาคือ ครั้งนี้อาจมีพละกำลังในระดับ 800-900 แรงม้าในสภาพเดิมๆ จากโรงงาน (แต่จะไม่มากไปกว่านั้นเพื่อไม่ให้ทับไลน์ Revuelto) แต่ข่าวร้ายก็คือ เครื่องยนต์ V10 ที่เคยแผดเสียงแหลมห้าวจะกลายเป็นอดีต เพื่อหลีกทางให้กับขุมพลัง V8 เทอร์โบ จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า และเป็นไฮบริดเสียบปลั๊กชาร์จไฟฟ้า เช่นเดียวกันกับ Revuelto แทน
นอกจากนี้ Urus ซึ่งเป็นซูเปอร์ SUV ที่เคยสร้างยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์กว่า 8,000 คันให้กับค่ายในปี 2021 จะมีรุ่น PHEV ตามออกมาภายในช่วงต้นปี 2024 นี้ ด้วยขุมพลัง V8 ที่เป็นไปได้ว่าจะมีพละกำลังมากในระดับ 800 แรงม้า เพื่อคงจุดเด่นในการเป็น SUV พลังสูงไว้คอยรับมือกับ Ferrari Purosangue
ปิดท้ายด้วยแบรนด์ Maserati ที่ปีนี้ SUV/Crossover รุ่นขายดีอย่าง Grecale ที่จะมีเวอร์ชั่น EV ออกจำหน่ายในชื่อ Grecale Folgore ซึ่งใช้มอเตอร์คู่ ขับเคลื่อนสี่ล้อ พละกำลังรวม 536 แรงม้า และจะเป็นเรือธงในการนำ Maserati เข้าสู่ตลาดรถ EV ตามด้วย MC20 Folgore ซึ่งก็คือ Maserati MC20 ในเวอร์ชั่นพลังไฟฟ้าแบบสามมอเตอร์ ที่อาจมีพละกำลังเฉียด 1,000 แรงม้า
ทั้งหมดคือไฮไลท์ยานยนต์ยุโรปชั้นสูงที่เข้าแถวเปิดตัวในตลาดโลกและประเทศไทยในปีนี้ ซึ่งยนตรกรรมค่ายใดจะสามารถสร้างผลสำเร็จด้านยอดจำหน่ายได้ดีเพียงไร และไม่ว่าจะแข่งขันกันด้วยการรักษาเอกลักษณ์ หรือการสร้างเปลี่ยนแปลง ตลาดรถยนตร์ระดับไฮเอนด์ในประเทศไทย ก็ยังเป็นเวทีที่ไม่อาจละสายตาเสมอมา
