• Movie 187
  • Movie 66
  • Sample Page
  • รีวิวหนังดี 294 – P1
  • รีวิวหนังดี 294 – P2
  • รีวิวหนังดี 294 – P3
reviewfilm.dailync91news.live
No Result
View All Result
No Result
View All Result
reviewfilm.dailync91news.live
No Result
View All Result

N3005002_ผู้ชายตัวเตี้ยและวิธีรักษาภรรยาสุดฮอตของเขา_part2

admin79 by admin79
May 23, 2025
in Uncategorized
0
N3005002_ผู้ชายตัวเตี้ยและวิธีรักษาภรรยาสุดฮอตของเขา_part2

ถัดมา ในปี 2019 ช่วงปลายปี จนถึงต้นปี 2020 จะถึงเวลาปรับโฉมให้กับ Audi Q7 Minorchange จากข้อมูลล่าสุด เส้นสายด้านหน้าจะถูกปรับปรุงให้ดูเพรียวขึ้น เป็นไปในทิศทางเดียวกับด้านหน้าของ Audi Q8 ที่เพิ่งเปิดตัวไปในปี 2018 ที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน ชุดไฟท้ายก็จะถูกเปลี่ยนมาเป็นดวงไฟสว่างเป็นแฉก คล้าย Q8 อีกเช่นกัน ภายในห้องโดยสาร จะถูกปรับปรุงเยอะกว่าภายนอก โดยจะมีการนำแผงหน้าปัด (Dashboard) พร้อมจอ Monitor สี TouchScreen แบบ Digita มาใช้ ด้านขุมพลังขับเคลื่อนนั้น มีความเป็นไปได้ที่จะใช้เครื่องยนต์ เบนซิน V6 DOHC 24 วาล์ว 3.0 ลิตร Turboharger พ่วงกับระบบ Mild-hybrid 340 แรงม้า (PS) ซึ่งแรงกว่าเครื่องยนต์ซูเปอร์ชาร์จ 333 แรงม้า (PS) ในปัจจุบัน แต่ปล่อยมลพิษน้อยลง

คนไทยจะได้สัมผัส Q7 Minorchange เร็วแค่ไหนนั้น ขึ้นอยู่กับการเปิดตัวในเยอรมนี หาก Q7 เผยโฉมในตลาดโลกภายในไตรมาสสุดท้ายของปี 2019 ก็เป็นไปได้ว่า เราจะได้เห็น Q7 Minorchange บนโชว์รูมในกรุงเทพฯ ช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2020 เป็นอย่างช้าที่สุด

ช่วงเวลาใกล้เคียงกันกับการเปิดตัว Q7 Minorchange ในเมืองนอก Audi ก็อาจเผยโฉม A4 Minochange ซึ่งมีการปรับปรุงงานออกแบบด้านหน้ารถขึ้นมาใหม่ ให้สอดรับกับแนวทางการออกแบบที่ใช้กับ Q8 ในปัจจุบัน รูปทรงของไฟหน้า/กันชนหน้าและกระจังหน้าจะเปลี่ยนไปจากเดิมแบบเห็นได้ชัด ในขณะที่ด้านท้ายอาจยังคงมีเส้นสายหลักเหมือนเดิม แต่รายละเอียดของหลอดไฟท้ายอาจเปลี่ยนเป็นทรงแฉกเหมือนใน Q8

ถ้าหาก A4 เผยโฉมตรงตามกำหนดที่เมืองนอก คือภายในช่วงไตรมาส 3 หรือ 4 ของปี 2019 ประเทศไทยเองก็อาจได้เห็น A4 Minorchange เร็วสุดคือช่วงต้นปี 2020

Image source: autoevolution

นอกจาก Q7 ไมเนอร์เชนจ์ที่มีความเป็นไปได้สูงในการมาถึงตลาดประเทศไทยแล้ว  ปี 2019 ในตลาดโลก Audi จะรุกหนักด้วย SUV สไตล์ Coupe หลากหลายโดยอาศัยพื้นฐานทางวิศวกรรมจากรุ่นที่มีขายอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น Q4 (หรืออาจเปลี่ยนชื่อเป็น Q3 Sportback) ซึ่งใช้แพลทฟอร์ม MQB เครื่องวางขวางของ Q3 ตามมาด้วย Q6 ซึ่งก็คือ Q5 เวอร์ชั่น Coupe SUV Style นั่นเอง

ส่วน Q9 นั้น ยังไม่มีใครเห็นโฉมหน้าของรถทดสอบ เราทราบแต่เพียงว่ามันจะมาเป็น Flagship ของรถ SUV ที่มีความหรูหรา และมีขนาดตัวโตยิ่งกว่า Q7 ขึ้นไปอีก Audi มีความตั้งใจที่จะสร้างรถรุ่นนี้มาเพื่อตลาดอเมริกัน และจีนโดยเฉพาะ ดังนั้นความคุ้มค่าที่จะนำมาขายในไทยจึงยังเป็นเรื่องที่น่ากังขา

สำหรับรถขุมพลังไฟฟ้า Audi ก็ได้นำ e-tron บอดี้ SUV มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ 608 แรงม้า มาเผยโฉมในช่วงปลายปี 2018 ตามที่สัญญาไว้ และยังนำรถรุ่น e-tron GT Concept ออกมาโชว์โดยบอกว่ารถคันนี้จะถูกพัฒนาต่อจนเป็นเวอร์ชั่นขายจริงที่พร้อมส่งมอบให้ลูกค้าได้ในปี 2021 รถคันนี้ใช้โครงสร้างพื้นฐานที่พัฒนาร่วมกับ Porsche Taycan และติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ชุด กำลังขับรวม 590 แรงม้า ใช้แบตเตอรี่ขนาด 90 kWh ที่ทำให้วิ่งได้ไกล 400 กิโลเมตร

ลูกค้าชาวไทย จะได้สัมผัสกับ ตระกูล e-tron บอดี้ SUV กันแน่นอน เนื่องจาก ทางบริษัทแม่ในเยอรมนี เขาอยากให้ e-tron เข้าไปทำตลาดในทุกประเทศให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ และที่สำคัญ คู่แข่งอย่าง Mercedes-Benz ก็มีแผนนำรถพลังไฟฟ้ามาจำหน่ายแล้วยังลงทุนมหาศาลสร้างโรงงานแบตเตอรี่ในไทยอีก ดังนั้น Audi ก็จะชิงความได้เปรียบ ด้วยการนำเข้าเจ้า e-tron นี้ มาโชว์ตัวที่งาน Bangkok International Motor Show 2019 ปลายเดือน มีนาคม 2019 นี้ อย่างฉับไวเช่นเคย

____________________________

BENTLEY

  • 2019 : Continental GT Convertible & Bentayga Plug-in (Thailand Premier) /
    Flying Spur & New EV Sportscar (World Premier)
  • 2020 : Flying Spur Saloon (Thailand Premier)

ปี 2018 AAS Auto Service ประกาศราคาและเปิดรับจอง Continental GT Coupe ด้วยตัวเลข 21.5 ล้านบาท เมื่อ 12 มกราคม 2018 ก่อนจะนำรถคันจริง มาจัดแสดงในงาน BangkokInternational Motor Show เมื่อ 28 มีนาคม 2018 ร่วมกับ Bentley Bentayga Diesel ก่อนจะปิดท้ายความเคลื่อนไหวด้วยการเปิดตัว Bentley Bentayga ขุมพลัง V8 เบนซิน ในงาน Motor Expo เมื่อ 29 พฤศจิกายน 2018 ที่ผ่านมา

สำหรับตลาดต่างประเทศ Bentley เพิ่งเผยโฉม Continental GT Convertible (GTC) รุ่นใหม่ไปเมื่อปลายปี 2018 ที่ผ่านมา และผู้แทนจำหน่ายทางไทยอย่าง AAS ก็ไม่รอช้า กำลังเดินหน้าเจรจาเอาเข้ามาขายอยู่และคาดว่าภายในครึ่งแรกของปี 2019 เศรษฐีไทยจะมีโอกาสได้ซื้อกัน เครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อนก็เหมือนกับรุ่น W12 Coupe ที่ขายในไทยมาตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2 ของปี เป็นแบบ 6.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ 635 แรงม้า ให้แรงบิดสูงสุดถึง 900 นิวตันเมตร

ในช่วงปี 2019 นี้ Bentley ก็จะเริ่มนำขุมพลังทางเลือก มาทยอยติดตั้งให้กับ Continental GT ทั้ง 2 ตัวถัง เนื่องจากการใช้พื้นโครงสร้างตัวถังแบบ MSB ซึ่งแชร์กันใช้กับ Porsche Panamera ดังนั้น ไม่ต้องสืบก็รู้ได้ว่า Continental GT V8 รุ่นต่อไป ก็จะใช้เครื่องยนต์ V8 Fourcam 32 วาล์ว 4.0 ลิตร 530-550 แรงม้า (PS) และล่าสุด จะมีการนำขุมพลัง Plug-in Hybrid มาใส่ด้วย

ไม่เพียงเท่านั้น ขุมพลัง Hybrid เสียบปลั๊ก บล็อกนี้ ก็จะถูกส่งไปติดตั้งอยู่ใน Bentley Bentayga Plug-in Hybrid รถยนต์ Hybrid แบบผลิตขายจริง คันแรกในประวัติศาสตร์ของ Bentley

ข้อมูลทางเทคนิค ยังไม่ถูกเปิดเผยออกมามากนัก ทราบแต่เพียงว่า Bentayga Plug-in Hybrid จะใช้เครื่องยนต์เบนซิน V6 DOHC 24 วาล์ว 3.0 ลิตร Turbocharger พ่วงกับมอเตอร์ไฟฟ้า ยังไม่มีการแจ้งขนาดแบตเตอรี่ Lithium-ion แต่ Bentley เคลมว่ารถคันนี้สามารถแล่นได้ด้วยการใช้ไฟฟ้าล้วนๆ หรือ EV Mode ไกลประมาณ 50 กิโลเมตร เดาได้ไม่อยากเลยว่า มันก็คือชุดขุมพลังและระบบขับเคลื่อนแบบเดียวกับใน Porsche Cayenne e-Hybrid เพื่อนร่วมเครือญาติร่วมค่าย ที่มีพลัง 462 แรงม้า (PS) นั่นเอง

Bentayga Plug-in Hybrid มีกำหนดขึ้นสายการผลิต และออกจำหน่ายจริงในปี 2019 รวมถึงจะมีการส่งมาขายในประเทศไทย อาจเป็นช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2019 นี้ ด้วยราคาที่ถูกลงกว่ารุ่น V8 เบนซิน ที่ขายในไทยตอนนี้ (21.5 ล้านบาท) จากเหตุผลด้านภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิต จนทำให้กลายเป็น Bentley ยุคใหม่ที่ราคาถูกที่สุด (แต่ยังเกินเอื้อมสำหรับคนทั่วไป) อย่างไรก็ตามอย่าคาดหวังราคาให้เป็นตัวเลข 7 หลัก เพราะไม่งั้นก็จะแย่งลูกค้ากันเองกับ Porsche Cayenne e-Hybrid

ปลายปี 2019 ถึงต้นปี 2020 Bentley จะมีรถโมเดลใหม่เปิดตัวอีก 2 รุ่น ได้แก่ รถสปอร์ต EV ขนาดกลางคันใหม่ ซึ่งอาจมีรายละเอียดทางการออกแบบที่ใกล้เคียงกับรถต้นแบบ EXP 12 6e คันที่อยู่ในภาพบน โดย Wolfgang Durheimer CEO ของ Bentley บอกว่าก่อนหน้านี้ทาง Bentley มีความประสงค์ที่จะลองสร้างรถ SUV พลังไฟฟ้าที่ขนาดตัวเล็กกว่า Bentayga ลงมา แต่ในปัจจุบันโครงการดังกล่าวถูกพับไปก่อน แล้วดันโครงการรถสปอร์ต EV ขึ้นมาแทน อาจต้องรอถึงช่วงกลางปี 2019 จึงจะมีรายละเอียดของขุมพลังขับเคลื่อนออกมามากกว่านี้ แต่ถ้าใครอยากรู้ไวๆ ลองดูข้อมูลต่างๆของ Porsche Taycan ดูได้ เพราะอาจไม่แตกต่างกันนัก

ต่อมา คือรถซาลูนหรู มียศทางการตลาดระดับเดียวกับ Continental GT อย่าง Flying Spur (ไม่มีคำว่า Continental นำหน้าตั้งแต่รุ่นก่อนหน้านี้) ซึ่งกำลังวิ่งทดสอบเพิ่มเติมอยู่ในขณะนี้ รูปทรงเท่าที่เห็น พอจะบอกได้ว่ารุ่นใหม่จะดูเพรียวลมขึ้นในลักษณะเดียวกับที่ Continental GT ใหม่ดู “ผอมสลิม” ลงจากรุ่นก่อน ขุมพลังที่มีให้เลือก ก็ยกยวงมาจาก Continental GT คือ W12 6.0 ลิตร, V8 4.0 ลิตร และทาง Bentley ยืนยันมาแล้วว่าจะมีรุ่น V6 3.0 ลิตร Plug-in Hybrid ตามออกมา

สิ่งที่คุณควรรู้ไว้ก็คือ Bentley ยังประกาศด้วยว่า Flying Spur นี้จะเป็นรถรุ่นสุดท้ายของ Bentley ที่จะมีเครื่องยนต์สันดาปภายในล้วนๆให้เลือกซื้อ เพราะรุ่นใหม่ที่ตามมานับจากปี 2021 เป็นต้นไป จะมีมอเตอร์ไฟฟ้าช่วยในการขับเคลื่อนทั้งหมด

____________________________

BMW / MINI

  • 2019 : 3-Series Full Model change 320d CBU / 330e Made in Thailand / X7 / Z4 20i & M40i / 7-Series LCI / X5 Plug-in Hybrid + Made in Thailand / X6 (Global)/ X4 ” Hot Version ”
  • 2020 : X3 EV (iX3) / 4 Series Full Model Change / X1 LCI/ MINI-e (EV)

ปี 2019 จะเป็นปีทำงานหนักสำหรับคนใน BMW Thailand อีกครั้งเพราะเป็นเวลาที่มีรถหรูหลายรุ่นเปิดตัวชนกัน เริ่มกันตั้งแต่ช่วงไตรมาสแรกของปีด้วยรถยนต์ที่จะมากู้สถานการณ์อย่าง BMW ซีรีส์ 3 ตัวถัง G20 ที่เพิ่งจะเผยโฉมหน้ากันไปเมื่อเดือนตุลาคม 2018 ที่ผ่านมา

ในช่วงต้นปี ซีรีส์ 3 ที่ขายในไทย จะยังเป็นรถนำเข้าแบบสำเร็จรูปยกคัน มีขุมพลังให้เลือก 2 รูปแบบ คือ 320d เครื่องยนต์ B47 Diesel 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 2.0 ลิตร TwinPower Turbo 190 แรงม้า (HP) ขับเคลื่อนล้อหลังด้วย เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ แต่ยังไม่แน่ว่าจะมีระดับการตกแต่งแบบใดให้เลือกบ้าง โดยปกติ BMW มักจะมีรุ่นย่อยพื้นฐาน Luxury ซึ่งตกแต่งแบบเอาใจคนแก่ 1 รุ่น และแบบ M Sport อีก 1 รุ่นย่อย เป็นแบบนี้มาตลอดในระยะ 3-4 ปีให้หลังมานี้

อย่างไรก็ตามไฮไลท์เด่นของซีรีส์ 3 น่าจะไปอยู่ที่ช่วงท้ายปี เมื่อมีการเปลี่ยนจากการนำเข้า เป็นการนำชิ้นส่วนรถเข้ามาประกอบภายในประเทศ (SKD) โดยเมื่อถึงเวลานั้น ก็อาจยังมี 320d เป็นทางเลือกแบบพระรอง ในขณะที่บทพระเอกจะเป็นของ 330e ซึ่งมาพร้อมกับขุมพลังเบนซิน 2.0 ลิตรเทอร์โบ 184 แรงม้า บวกกับมอเตอร์ไฟฟ้าพร้อมฟังก์ชั่น Xtraboost ซึ่งจะสามารถระเบิดพลังสูงสุดรวม 292 แรงม้าได้เป็นช่วงสั้นๆ นอกจากนี้ยังเพิ่มขนาดแบตเตอรี่จาก 7.6 เป็น 12 kWh ทำให้สามารถวิ่งในโหมดไฟฟ้าล้วนได้ไกล 60 กิโลเมตร

ในขณะที่ 3 Series Saloon เริ่มทำตลาดในไทย ทางฝั่ง Munich ก็กำลังทดสอบ 3-Series และเพื่อนพ้องตัวถังแบบอื่นที่จะตามมา เช่น 3 Series Touring ซึ่งน่าจะได้ใช้รหัสรุ่น G21 และ 4 Series ทั้ง Coupe และเปิดประทุน Convertible (รหัสรุ่น G23 และ G22 ตามลำดับ) ก็กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาเช่นเดียวกัน จุดเด่นของรุ่นเปิดประทุนก็คือมีการเปลี่ยนหลังคา จากเดิมเป็นหลังคาแข็งพับได้ 3 ชิ้น ก็จะเปลี่ยนเป็นหลังคาผ้าใบ ซึ่งก็เป็นไปในทางเดียวกันกับ 8 Series และ Z4 ที่ล้วนกลับไปใช้หลังคาผ้าใบเช่นเดียวกัน โดยทีมวิศวกรให้เหตุผลว่ามันช่วยลดน้ำหนักส่วนเกินได้ 100 กิโลกรัม

3 Series Touring น่าจะเปิดตัวในตลาดโลกอย่างเร็วก็คือต้นปี 2019 ส่วน 4 Series นั้นต้องรอไปถึงช่วงปลายปี ส่วนขุมพลังขับเคลื่อนแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเบนซินหรือดีเซล จะยกมาจากซีรีส์ 3 ซาลูน ยกเว้นแต่ขุมพลังไฮบริดซึ่งยังไม่มีการกล่าวถึงในรุ่นซีรีส์ 4 ส่วนรุ่นแรงสุดอย่าง M3 กับ M4 นั้น ในช่วงนี้เริ่มมีการแอบทดสอบกันที่สนาม Nurburgring แต่กว่าจะทำตลาดได้ก็คงต้องรอไปถึงปี 2020 หรือหลังจากนั้น ซึ่งจะเป็นเวลาใกล้เคียงกับช่วงที่ 4 Series มาเปิดตัวในไทย

อย่างไรก็ตาม โอกาสในการมาทำตลาดในไทยสำหรับรุ่น Touring นั้น อย่าเพิ่งคาดหวังมาก เพราะที่ผ่านมา รถยนต์แบบ Station Wagon หรือ Touring ทั้ง 3 Series และ 5 Series รุ่นปัจจุบัน ต่างมียอดขายน้อยมาก จน BMW Thailand อาจเริ่มมองว่าไม่คุ้มที่จะนำเข้ามาจำหน่าย

สำหรับใครที่รอ รถสปอร์ตเปิดหลังคารุ่น Z4…ขอแสดงความยินดีด้วย เพราะในปี 2019 BMW Z4 (G29) พวงมาลัยขวา ซึ่งพัฒนาร่วมกันกับ Toyota จะถูกส่งเข้ามาเปิดตัวในประเทศไทย คราวนี้ ไม่ได้มาแค่รุ่น sDrive20i 2.0 ลิตรเทอร์โบ 197 แรงม้า (HP) เท่านั้น แต่ยังจะมีรุ่น “M40i” เครื่องยนต์ B58 เบนซิน 6 สูบ DOHC 24 วาล์ว 3.0 ลิตรเทอร์โบ 340 แรงม้า (HP) เข้ามาขายด้วย กระนั้น อาจต้องทำใจเพราะ Z4 ใหม่ เวอร์ชันไยจะมีเฉพาะเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะเท่านั้น อีกทั้งราคาขายปลีก ก็ดูแล้วไม่น่าจะเป็นมิตรเท่าไหร่ (ลองดูราคาของ M2 ซึ่งเป็นรถยนต์ Coupe 2 ประตู หลังคาแข็งก่อนก็ได้) กำหนดเปิดตัว น่าจะเกิดขึ้นอย่างเร็วที่สุด คือ งาน ฺBangkok International Motor Show ปลายเดือนมีนาคม 2019

อีกรุ่นหนึ่งที่อาจจะมาแบบเซอร์ไพรส์ก็คือ X4 เวอร์ชั่นพลังแรง 6 สูบ Turbo ถึงแม้ว่าเราจะยังไม่แน่ชัดว่าเป็นรุ่นใด แต่ถ้าลองไล่เรียงดูจากบรรดารุ่นย่อยทั้งหมดของ X4 ที่มีจำหน่ายอยู่ในตลาดโลกตอนนี้ จะมีเพียงแค่ 2 รุ่นเท่านั้นที่เข้าข่าย นั่นคือ X4 xDrive M40d เครื่องยนต์ Diesel 6 สูบ DOHC 24 วาล์ว 3.0 ลิตร Turbocharger 326 แรงม้า (HP) หรือ X4 xDrive M40i ซึ่งดูมีความเป็นไปได้สูงกว่า เพราะสามารถแชร์สต็อคอะไหล่เครื่องยนต์กับ Z4 M40i ได้ แต่เพื่อรับกับน้ำหนักตัวที่มาก X4 ตัวแรงจะได้พลังเพิ่มจาก 340 เป็น 355 แรงม้า (HP) เพื่อไปท้าชิงกับ Mercedes AMG GLC43 Coupe ได้อย่างสมศักดิ์ศรี

อย่างไรก็ตาม รุ่น Top Performance model อย่าง X4M ขุมพลัง 6 สูบ DOHC 24 วาล์ว Turbocharger ก็อยู่ในระหว่างการเตรียมเปิดตัวที่ยุโรป ในปี 2019 นี้ ถ้าหาก BMW Thailand เกิดบ้าจี้ สั่งนำเข้าสำเร็จรูปทั้งคัน มาขายกันจริงๆ อาจทำให้ลูกค้าช็อค 2 จังหวะ ช็อคแรก คือ ไม่คิดว่ามันจะมา กับช็อกที่ 2 ก็คือ ค่าตัวที่น่าจะแพงระเบิด หากถามว่าแพงแค่ไหน ลองดูราคา M4 รุ่นปัจจุบันเป็นเกณฑ์ก็แล้วกัน

ส่วนแฝดผู้พี่ อย่าง BMW X3 นั้น จะถูกเพิ่มทางเลือกใหม่ ด้วยเวอร์ชั่นขุมพลังไฟฟ้าล้วนในชื่อ BMW iX3 เพราะก่อนหน้านี้ BMW ได้ไปจดลิขสิทธิ์ชื่อทางการค้าเอาไว้ครบตั้งแต่ iX1-iX9 แล้วหลังจากนั้นก็มีคนถ่ายภาพลับรถ X3 หน้าตาสีสันชวนนึกถึงร้านอาหารสีฟ้านี้ได้ที่สวีเดน ซึ่งมีคนแอบสำรวจพบใต้ท้องที่แตกต่างจาก X3 ทั่วไปและไม่มีปลายท่อไอเสีย คำถามคือ BMW จะใช้วิธีเอาขุมพลังไฟฟ้าจับใส่ในรถที่มีอยู่แล้วงั้นหรือ? เพราะหากเป็นเช่นนั้น ก็จะขาดข้อได้เปรียบทางรูปลักษณ์ต่อรถอย่าง Mercedes-Benz EQC และ Audi e-tron แต่ถ้าจะเอาออกมาขายให้เร็วที่สุด ก็ต้องใช้วิธีนี้เท่านั้น

ยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมถึงขุมพลังและขนาดแบตเตอรี่ของ iX3 แต่ภายในปี 2019 รายละเอียดต่างๆน่าจะมีมากขึ้น เพราะกำหนดการเผยโฉมอาจเป็นช่วงปลายปี 2019 และพร้อมส่งมอบให้ลูกค้าได้ในปี 2020

Previous Post

N3005004_เด็กหญิงช่วยแม่สามีไม่ให้ถูกวางยาและตามหาผู้กระทำผิด_part2

Next Post

N3005001_ชายผู้มีทักษะพิเศษช่วยชีวิตทุกคนระหว่างเดินทางไปพบภรรยาของเขา_part2

Next Post
N3005001_ชายผู้มีทักษะพิเศษช่วยชีวิตทุกคนระหว่างเดินทางไปพบภรรยาของเขา_part2

N3005001_ชายผู้มีทักษะพิเศษช่วยชีวิตทุกคนระหว่างเดินทางไปพบภรรยาของเขา_part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N1606002_ภาพยนตร์โรแมนติกละครไทยที่ดีที่สุด 2024_part2
  • N1606004_เพราะเมียน้อยของเขา สามีจึงปฏิบัติต่อภรรยาอย่างเลวร้าย_part2
  • N1606005_หญิงสาวรู้สึกประหลาดใจเมื่อสามีของเธอมีชู้_part2
  • N1606006_สามีขี้โกงลับหลังภรรยา บริษัทจะเป็นของใคร?_part2
  • N1606008_เด็กสาวช่วยชีวิตหลานชายของ CEO โดยไม่ได้ตั้งใจ_part2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • June 2025
  • May 2025
  • April 2025
  • March 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.