คอนโซลเกียร์หุ้มหนังสัมผัสทั้งสองข้าง คันเกียร์อัตโนมัติทรงเดิมสีเงินหุ้มหนังดำแสดงตำแหน่งพร้อมไฟเรืองแสงพร้อมถุงเกียร์สีดำ รายล้อมด้วยปุ่มการทำงานต่างๆทั้งปุ่มซ้ายมือมีทั้งปุ่มเปิดปิดการทำงานของเซนเซอร์กะระยะการจอด ปุ่ม ISS (Idling Stop/Start System) ตัดการทำงานของเครื่องยนต์ชั่วคราวและกลับมาทำงานโดยอัตโนมัติที่ยังคงเหยียบเบรกและตำแหน่งเกียร์ต้องอยู่ในเกียร์ D ระบบจะทำงานนานสุดหนึ่งนาทีระบบแอร์กับเครื่องเสียงยังทำงานและถ้ารำคาญใจที่ต้องกังวลว่าเดี๋ยวดับเดี๋ยวทำงานสามารถปิดระบบได้
ปุ่มขวามือมีทั้งปิดระบบ TCS กับควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC ช่อง Shift Lock สำหรับปลดเกียร์ว่างจอดขวาง มีสวิตช์ปุ่ม 4×4 กับ Rough Terrain Mode ในรุ่น RS 4WD เบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Brake Hold
ตรงกลางด้านแผงช่องแอร์และใต้แผงคอนโซลหน้าด้านคนนั่งจุของได้เยอะและยังเป็นที่อยู่ของตัวกุญแจไขยกเลิกการทำงานถุงลมนิรภัยด้านผู้โดยสารด้านหน้าสำหรับการติดตั้งที่นั่งคาร์ซีทในเบาะโดยสาร ไฟเตือนอยู่ที่ด้านข้างคอนโซลหน้าฝั่งผู้โดยสาร กระจกมองหลังปรับแสงอัตโนมัติพร้อมไฟส่องแผนที่มีช่องเก็บแว่นตาและไฟ Dome Light
เบาะนั่งปรับด้วยระบบไฟฟ้า 8 ทิศทางสำหรับคนขับและปรับไฟฟ้า 4 ทิศทางสำหรับคนนั่งและยังช่วยลดการสะสมความร้อนด้วยเทคโนโลยี Cool Max เบาะนั่งตอนที่ 2 ปรับเอนได้ถึง 22 องศา พับได้ 60/40 แบบพับม้วนเดียวจบรองรับที่นั่งเด็ก ISOFIX และเบาะนั่งตอน 3 สบายพับได้แบบ 50/50 พื้นที่หลังเบาะตอน 3 ก่อนพับจะมีพื้นที่ความจุมากถึง 311 ลิตร และเมื่อพับเบาะตอน 3 ลงมีพื้นที่ความจุมากถึง 1,119 ลิตร และเมื่อพับตอน 2 กับตอน 3 ด้วยกันจะมีพื้นที่ความจุมากถึง 2,138 ลิตร
เอาใจคนรักความสะดวกสบายด้วยกุญแจรีโมท ISUZU Genius Entry สตาร์ทเครื่องยนต์ด้วย Remote Engine Start และใช้เปิด-ปิดประตูท้ายไฟฟ้า ไฟส่องสว่างในห้องโดยสารเปิดอัตโนมัติ เมื่อเข้าใกล้รถในระยะ 2 เมตร Welcome Light
ล็อกประตูอัตโนมัติเมื่อเดินออกห่างจากตัวรถเกินระยะ 3 เมตร Walk Away Auto Lock เปิดไฟส่องสว่างได้นาน 30 วินาที หลังดับเครื่องยนต์ Follow Me Home และขึ้นลงทั้งตอนหน้าตอน 2 ด้วยมือจับขนาดใหญ่ 4 จุดอำนวยความสะดวกในการขึ้น-ลง และมือจับบนหลังคาอีก 4 จุด
Engine & Transmission
พีคเช่นเดิมด้วยเครืองยนต์ดีเซลเทอร์โบแปรผันไฟฟ้า E-VGS Ddi Blue Power ขนาด 3.0 ลิตร รุ่น 4JJ3-TCX E5 มีกำลังอัดเท่าเดิมสมัย EURO4 เพียง 16.3:1 ส่วนเส้นผ่าศูนย์กลางกระบอกสูบและช่วงชักเท่าเดิมคือ 95.4 มิลลิเมตร X 104.9 มิลลิเมตรกำลังสูงสุด 190 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,600 รอบต่อนาที ครั้งนี้มีพัฒนาใหม่ผ่านมาตรฐาน EURO 5 ที่มีการเปลี่ยนแปลงดังนี้
เทคโนโลยีตัวกรองเขม่าไอเสียในเครื่องยนต์ดีเซล DPD (Diesel Particulate Diffuser) ลดเขม่าและฝุ่นขนาดเล็กจากการเผาไหม้จากเดิมจะมี แคทาลิติก คอนเวอเตอร์ สามารถรักษาสมรรถนะรถ ประสิทธิภาพการใช้งานอันยอดเยี่ยม และยังสามารถลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นโดยไม่เติมน้ำยาบำบัดไอเสียในเครื่องยนต์ดีเซลเช่น AdBlue
ระบบวาล์วน้ำใหม่แบบขี้ผึ้งแทนแบบเดิมที่ใช้ไฟฟ้าพร้อมฮีตเตอร์ไฟฟ้า ลูกสูบออกแบบหัวลูกสูบใหม่ ระบบ EGR มีท่อบายพาสจากเดิมไม่มีท่อ พัฒนากล่องสมองกล ECM ใหม่ประมวลการทำงานอย่างรวดเร็วขึ้น เพิ่มเซนเซอร์ในระบบเครื่องยนต์ในส่วนของอุณหภูมิน้ำมันเครื่อง อุณหภูมิ CAC ระบบ EGR ทั้งอุณหภูมิและความดัน EGR ระบบ DPD ในส่วนอุณหภูมิไอเสีย 1,2 O2 และแรงดัน DPD
โดยส่วนอื่นๆของเครื่องยนต์ยกมาจากเวอร์ชัน EURO4 ทั้งรูหัวฉีดขนาดเล็ก 0.126 มิลลิเมตรรหัส ID หัวฉีด A9 ระบบ Common Rail ที่มีหัวฉีดแบบ High Pressure แรงดันสูงถึง 250 MPa ปั้มน้ำมันเชื้อเพลิงแรงดันสูงควบคุมแรงดันด้วย PCV ท่อเรลควบคุมด้วย Pressure Control Value
เทอร์โบแปรผันปรับไฟฟ้าตั้งอัตราการบูสท์ไว้เท่าเดิมคือ 1.7 บาร์ หรือประมาณ 24 ปอนด์ สลักลูกสูบเคลือบสารพิเศษ Diamond Like Carbon และTiming Gear แบบ Double Scissors Gear หรือเฟืองกรรไกรแบบคู่ช่วยลดระยะห่างของฟันเฟือง เครื่องยนต์เดินเรียบและทนทาน
ส่งผลให้การปล่อยไอเสีย CO2 ทำได้เพียง 188 กรัมต่อกิโลเมตรในรุ่น Ultimate และ 194 กรัมต่อกิโลเมตรในรุ่น RS 4WD พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด Rev Tronic พ่วงระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Part-Time Shift-On-The-Fly ควบคุมด้วยไฟฟ้า Terrain Command และก็เสียดายอีกเพราะไม่มีเฟืองท้ายไฟฟ้าแบบ Electronic Diff-lock
Handling & Ride
ขุมพลัง 3.0 ลิตร 190 แรงม้า พัฒนาใหม่ปรับเซ็ตกำลังเครื่องให้มีความกระฉับกระเฉงขึ้นเร่งแซงฉับไวขึ้นกว่าตอน EURO4 เรียกว่ามาทันใจกว่าเหมาะสำหรับสายโมเพิ่มกำลัง ด้วยพื้นฐานความเป็นตระกูล 4J ที่คนไทยเชื่อมั่นในความทนทานถึกทนมายาวนานเกือบ 40 ปี สร้างอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ให้ความฉับไวเล็กน้อยด้วยตัวเลข 10.25 วินาทีในรุ่น RS 4WD เทียบกับรุ่นเดิม Ultimate ขับเคลื่อน 4 ล้อ EURO4 ที่ทำได้ 10.42 วินาที และ 10.07 วินาทีในรุ่น Ultimate 2WD
รอบการทำงานของเครื่องในช่วงความเร็ว 100-120 กิโลเมตร ผลงานออกมาดังนี้ที่ 1,450 รอบต่อนาที 1,500 รอบต่อนาทีและ 1,750 รอบต่อนาที ตามลำดับ เสียงเครื่องยนต์เงียบในช่วงรอบเดินเบา 675-725 รอบต่อนาที ความเร็วต่ำจนถึงความเร็วสูง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป ช่วงรอบกลางถึงรอบสูงยังให้ความเงียบพูดคุยฟังเพลงสบายอุรา ติดตั้งฉนวนกันเสียงรบกวนที่หนาทั่วทั้งคัน
ทัศนวิสัยการมองในตำแหน่งคนขับดีขึ้นเพราะฝากระโปรงหน้าดีไซน์ใหม่เล่นระดับเล็กน้อยจนมาถึงขอบและฐานกลางฝากระโปรงดีไซน์โหนกนูนเรียบเนียนไม่เกะกะสายตาในการมอง ตำแหน่งเบาะปรับสูงต่ำได้ได้ตามใจชอบด้วยไฟฟ้า
เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ลูกเดิมรุ่น AWR6B45 จากค่าย AISIN ปรับตัวตนใหม่อีกครั้งด้วยการพัฒนาเซตซอฟท์แวร์ใหม่ให้การเปลี่ยนเกียร์สัมพันธ์ความเร็วอย่างรวบรัดสมูทขึ้นแถมมี Rev-Tronic บวกและลบในชุดเกียร์และก้านเหนี่ยวเกียร์ที่หลังพวงมาลัยหรือ Paddle Shift สนุกสนานในการขับขี่
แม้อัตราทดเกียร์ทาง ISUZU ยังเดิมๆไม่เติมแต่งด้วยอัตราทดเกียร์ เกียร์ 1= 3.600, เกียร์ 2 = 2.090, เกียร์ 3 = 1.488, เกียร์ 4 = 1.000, เกียร์ 5 = 0.687, เกียร์ 6 = 0.580, เกียร์ถอยหลัง = 3.732 (ในรุ่น RS 4WD อัตราทดเกียร์ 4L = 2.482 แล 4H = 1.000)