อีซูซุ เผยยอดขายสะสมรถปิกอัพรุ่นทอปเซลล์ ‘อีซูซุ ดีแมคซ์’ 600,000 คัน นับแต่ปี 2562 เปิดตัวเจนฯ 3 ครั้งแรกในโลกที่ไทย รวม 6 รุ่นย่อย เริ่ม 540,000 บาท เชื่อช่วยกระตุ้นตลาดรถช่วงปลายปีได้ แม้ตลาดรถยนต์รวมในไทยปีนี้เผชิญสถานการณ์ยากลำบาก
มร. ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด กล่าวว่า ยอดขายสะสมรถปิกอัพ ‘อีซูซุ ดีแมคซ์’ นับตั้งแต่เปิดตัวในไทย ปี 2562 อยู่ที่ 600,000 คัน ตอกย้ำความเป็นแบรนด์รถปิกอัพอันดับ 1 ของประเทศไทย
อีซูซุ ดีแมคซ์ 2566 หรือ NEW! ISUZU D-MAX เป็นการเปิดตัวในประเทศไทยครั้งแรก และเปิดตัวก่อนประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก รุ่นดังกล่าว นับเป็นเจเนอเรชันที่ 3 ของอีซูซุ ดีแมคซ์ บริษัทเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นตลาดรถปิกอัพในช่วงปลายปีนี้ให้กับบริษัทและตลาดรวมได้อย่างดี
แม้ว่าสถานการณ์รถยนต์โดยรวมในไทย ปี 2566 จะยากลำบากกว่าปีที่ผ่านมา เหตุจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงต่อเนื่อง และมาตรการอนุมัติสินเชื่อจากไฟแนนซ์ที่เข้มงวดมากขึ้น
อนึ่ง อีซูซุ ดีแมคซ์ เจนฯ 3 มาในดีไซน์ใหม่ทั้งภายในและภายนอก พร้อมสีส้มใหม่ Namibu Orange Mica (ส้ม นามิบู ไมก้า) ฝากระโปรงจรดกันชนหน้า ออกแบบ Air Curtain นวัตกรรม Aerodynamic ลดแรงต้านอากาศ ฝาท้ายและชุดไฟท้ายดีไซน์ใหม่
ภายในเพิ่มความโดดเด่นด้วย “Miura” Design (“มิอุระ” ดีไซน์) หรูหรามีมิติ ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Paddle Shift อีกทั้งยังมีหน้าจอ Infotainment Display ขนาด 9 นิ้ว แบบ Multitasking System เชื่อมต่อข้อมูลกับหน้าจอ Integrated MID ใหม่ขนาด 7 นิ้ว
เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS ด้วย 3D Imaging Stereo Camera ที่กว้างขึ้นและแม่นยำขึ้น และระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติขณะถอย (Rear Cross Traffic Brake)
อีซูซุ ดีแมคซ์ 2023 รวม 6 รุ่นย่อย ราคาตั้งแต่ 540,000 – 1,264,000 บาท
อีซูซุ วี-ครอส 4×4 เครื่องยนต์อีซูซุ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ กำลังสูงสุด 190 แรงม้า
อีซูซุ ดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์ 4 ประตู เครื่องยนต์อีซูซุ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ กำลังสูงสุด 190 แรงม้า และเครื่องยนต์อีซูซุ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ เจน 2 กำลังสูงสุด 150 แรงม้า
อีซูซุ ดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์ 2 ประตู เครื่องยนต์อีซูซุ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ กำลังสูงสุด 190 แรงม้า และเครื่องยนต์อีซูซุ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ เจนฯ 2 กำลังสูงสุด 150 แรงม้า
อีซูซุ ดีแมคซ์ แค็บโฟร์ เครื่องยนต์อีซูซุ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ กำลังสูงสุด 150 แรงม้า
อีซูซุ ดีแมคซ์ สเปซแค็บ เครื่องยนต์อีซูซุ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ กำลังสูงสุด 190 แรงม้า และเครื่องยนต์อีซูซุ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ เจนฯ 2 กำลังสูงสุด 150 แรงม้า
อีซูซุ ดีแมคซ์ สปาร์ค เครื่องยนต์อีซูซุ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ กำลังสูงสุด 190 แรงม้า และเครื่องยนต์อีซูซุ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ กำลังสูงสุด 150 แรงม้า
Marketeer FYI
อีซูซุ นับเป็นแบรนด์รถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นที่เข้ามาทำตลาดในไทย ตั้งแต่ปี 2500 รวมดำเนินธุรกิจในไทยมาแล้ว 66 ปี
จุดเปลี่ยนใหญ่ ๆ ช่วงเริ่มต้นทำตลาดของแบรนด์หลังปี 2500 ได้นำรถบรรทุกอีซูซุคันแรกเข้ามาจำหน่ายในไทยในนามของบริษัท มิตซูบิชิ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้แทนในประเทศไทยของบริษัท มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น
ดังนี้
ปี 2506 เริ่มการประกอบรถอีซูซุในประเทศไทยโดยบริษัท มิตซูบิชิ (ประเทศไทย) จำกัด และได้รับความร่วมมือด้านเทคนิคจาก บริษัท อีซูซุมอเตอร์ (ประเทศญี่ปุ่น)
ปี 2509 ขยายโรงงานประกอบรถยนต์และจัดตั้งบริษัท อีซูซุ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่ อ. พระประแดง จ. สมุทรปราการ เพื่อรับผิดชอบการประกอบรถยนต์อีซูซุ ซึ่งเป็นการร่วมลงทุนระหว่างบริษัท มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น และบริษัท อีซูซุ มอเตอร์ (ประเทศญี่ปุ่น) เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตรถปิกอัพ รถยนต์นั่งอเนกประสงค์และรถบรรทุก ทั้งขายในประเทศและส่งออกทั่วโลก
ทุนจดทะเบียน 8,500 ล้านบาท มีโรงงานประกอบรถยนต์ 2 แห่ง คือ โรงงานสำโรง จ. สมุทรปราการ และโรงงานเกตเวย์ จ. ฉะเชิงเทรา โดยมีกำลังการผลิตรถอีซูซุรวมกัน 385,000 คันต่อปี มีพนักงานกว่า 6,000 คน
ปี 2517 ธุรกิจอีซูซุขยายตัวอย่างรวดเร็ว จึงตั้งบริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เพื่อบริหารธุรกิจการจัดจำหน่ายและบริการหลังการขายทั่วไทย
ปี 2521 อีซูซุได้แนะนำรถปิกอัพที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลเป็นครั้งแรกในไทย ซึ่งก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมรถปิกอัพของไทย โดยรถปิกอัพแบรนด์อื่น ๆ ได้ทยอยกันเปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ดีเซล จนครบทุกแบรนด์
ปัจจุบัน ปี 2565 อีซูซุ มีศูนย์จำหน่ายและบริการกว่า 377 แห่งทั่วประเทศ ยอดจำหน่ายรถยนต์รวม 214,120 คัน แบ่งเป็นยอดขายรถปิกอัพ 175,425 คัน คิดเป็นมาร์เก็ตแชร์ในเซกเมนต์นี้ 45.2%
โดย อีซูซุ มอเตอร์ ประเทศไทย ปี 2565 มีรายรับรวมกว่า 222,107 ล้านบาท กำไร 17,182 ล้านบาท เติบโต 85.12% ส่วนบริษัทจัดจำหน่าย ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ มีกำไร 20,425 ล้านบาท เติบโต 29.55%
อีซูซุ นับเป็นเพียงหนึ่งใน 3 ของค่ายรถยนต์ข้ามชาติที่มียอดจดทะเบียนสะสมประเภทรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน (รถยนต์ 4 ประตู) ณ 30 ก.ย. 2566 แตะหลักล้านคัน อยู่ที่ 1,219,118 คัน
ต่อจากค่ายเพื่อนร่วมชาติอย่าง โตโยต้าและฮอนด้า ที่อยู่ในอันดับ 1 และ 2 ตามลำดับ ผู้เขียนมองว่าหากนับรวมยอดจดทะเบียนรถปิกอัพ เซกเมนต์ตอนครึ่ง (แค็บ 2 ประตู) และตอนเดียว (2 ประตู) ด้วย ยอดน่าจะพุ่งไปไกลกว่าข้างต้นอีกมากทีเดียว
