1. Cadillac (แคดิแลค)
รถยนต์ของ Cadillac (แคดิแลค) นั้นเป็นรถที่ หายากอันดับ 1 ในเว็บไซต์ One2Car เพราะมีรถคันนี้เพียงแค่ 1 คันเท่านั้น เจ้าแคดิแลค หรือ คนพื้นที่จะเรียกว่า (Caddy แคดดี้) เป็นรถสายเลือด อเมริกัน นิยมใช้ในหมู่ผู้บริหาร หรือ CEO รุ่นเก่าแต่เก๋า แถม รถแบรนด์นี้ยังเป็นรถ ประจำตำแหน่งของ CEO ชื่อดัง และ คนที่รวยที่สุดอันดับ 5 ของโลกอย่าง Warren Buffet
นับเป็นรถสุดหรูของชาวอเมริกันเลยก็ว่าได้ ปัจจุบันรถยี่ห้อนี้มีวางจำหน่ายอยู่ในมากกว่า 30 ประเทศทั่วโลก และยังมีแพลนที่จะขยายไปมากกว่านี้อีกด้วยในอนาคต สาเหตุหลักที่แคดิแลคหายากในประเทศไทย เพราะคนไทยรู้จักรถแบรนด์นี้น้อยมาก และ น้อยคนที่จะกล้านำเข้ามา เนื่องจากศูนย์บริการ และ อะไหล่รถคันนี้หาค่อนข้างยาก และ ส่วนใหญ่จำเป็นต้องนำเข้ามาทั้งหมด
2. Saab (ซ้าบ)
รถยนต์ของ Saab นั้นเป็นรถที่ หายากอันดับ 2 ในเว็บไซต์ One2Car เพราะมีรถคันนี้เพียงแค่ 3 คันเท่านั้น เป็นเรื่องที่แปลกมาก ที่รถ Saab จากที่เคยเป็นที่นิยมในยุค 90 มากๆ นับว่าเป็นรถที่สวีเดนที่แรงที่สุด และ แข็งแกร่งที่สุดในยุคนั้น ถูกสร้างมาเพื่อต้องการเทียบชั้นรถเยอรมัน และทำให้คนไทยหลายๆคนในสมัยนั้นต้องหลงไหลในรูปทรง และ ดีไซน์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้เป็นรถหรู
แต่สาเหตุหลักที่รถคันนี้เป็นรถที่หายาก เนื่องจากแบรนด์นี้มีตลาด และ การจัดจำหน่ายที่จำกัดภายในประเทศ และ นอกจากนี้ นอกจากนั้นยังประสบปัญหาทางการเงิน และ ล้มละลายในปี 2555 ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเข้าถึงและการวางจำหน่ายทั่วโลก การขาดความพร้อมใช้งานและการสนับสนุนในประเทศไทยสำหรับ Saab ประกอบกับการเป็นที่รู้จักน้อยในประเทศไทย ทำให้เกิดความขาดแคลนในตลาด
3. Chrysler (ไครสเลอร์)
รถยนต์ Chrysler (ไครสเลอร์) นั้นเป็นรถที่ หายากอันดับที่ 3 ในเว็บไซต์ One2Car เพราะมีรถคันนี้เพียงแค่ 3 คันเท่านั้น
รถยนต์ไครสเลอร์ไม่ได้มีอยู่ทั่วไปในประเทศไทยด้วยเหตุผลหลากหลาย เริ่มต้นด้วยแบรนด์นี้มีอยู่อย่างจำกัดในตลาดเอเชีย และประเทศไทยก็เช่นกัน หากพูดถึงเรื่องค่าใช้จ่าย รถแบรนด์นี้จะมีค่าใช้จ่ายในการนำเข้าและบำรุงรักษาที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับรถยนต์ยี่ห้ออื่นในตลาด ทำให้ผู้บริโภคชาวไทยเข้าถึงรถยนต์ได้น้อย
เนื่องจากการสนับสนุนในประเทศถูกจำกัดสำหรับรถยนต์ของไครสเลอร์ รวมถึงชิ้นส่วนและบริการบำรุงรักษา ทำให้การเป็นเจ้าของและการบำรุงรักษามีความท้าทายมากขึ้น สำหรับผู้ซื้อในประเทศ และนำมาสู่ข้อสุดท้ายนั่นคือ ผู้บริโภคชาวไทยอาจขาดความสนใจในแบรนด์ดังกล่าว ซึ่งอาจจะชอบรถยนต์ยี่ห้ออื่น หรือ รถยนต์ที่นำเข้ามาจากประเทศอื่นๆมากกว่า และเป็นรถที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่านี้
4. Lotus (โลตัส)
รถยนต์ Lotus (โลตัส) นั้นเป็นรถที่ หายากอันดับที่ 4 ใน ในเว็บไซต์ One2Car เพราะมีรถคันนี้เพียงแค่ 7 คันเท่านั้น ซึ่งรถแบรนด์นี้ เป็นรถสปอร์ตที่หายากอันดับต้นๆในประเทศไทยอีกด้วย
เนื่องจากปัจจัยที่หลักที่ รถโลตัสเป็นแบรนด์รถหรูและถือเป็นรถพิเศษ ตลาดสำหรับรถยนต์เหล่านี้จำกัดเฉพาะผู้บริโภคระดับไฮเอนด์ที่มีกำลังซื้อได้ อีกประเด็นนั้นก็คือแบรนด์นี้ไม่ได้มีเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายที่แข็งแกร่งในประเทศไทย ทำให้ผู้บริโภคซื้อรถยนต์เหล่านี้เข้าถึงค่อนข้างยาก
นอกจากนี้ รัฐบาลไทยยังเรียกเก็บภาษี และ อากรขาเข้าสูงสำหรับรถหรูนำเข้า ทำให้มีราคาแพงกว่า และปัจจัยสุดท้ายที่คนไทยต้องห่วงเป็นอย่างมากนั่นคือ สภาพถนนในประเทศไทย ที่ไม่ได้รับการออกแบบเพื่อรองรับสมรรถนะสูงของรถยนต์โลตัส ทำให้มีความต้องการที่จำกัด ทั้งหมดนี้ส่งผลให้รถยนต์โลตัสในประเทศไทยเป็นของแรร์มากๆ
5. Ssangyong (ซางยอง หรือ ซันยอง)
รถยนต์ Ssangyong (ซางยอง) นั้นเป็นรถที่ หายากอันดับที่ 5 ใน ในเว็บไซต์ One2Car เพราะมีรถคันนี้เพียงแค่ 10 คันเท่านั้น
รถยนต์ซางยองค่อนข้างหายากในประเทศไทย เนื่องจากแบรนด์ดังกล่าวมีตลาดจำกัดในประเทศ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่าย และ การดูแลหลังการขายที่จำกัด ส่งผลให้คนไทยจดจำแบรนด์นี้ไม่ได้เลย
นอกจากนี้ ซางยองยังมีกลุ่มสินค้าที่เล็กกว่า เมื่อเทียบกับแบรนด์ยานยนต์อื่นๆ ในประเทศไทย ทำให้ผู้บริโภคหารุ่นที่เหมาะสมได้ยากขึ้น แม้จะมีความท้าทายเหล่านี้ ซางยองยังคงทำงานเพื่อปรับปรุงจุดยืนในเชิงการตลาดในประเทศไทย โดยการปรับปรุงการบริการลูกค้า และการมุ่งเน้นที่นวัตกรรมของรถรุ่นใหม่
โดยสรุปแล้ว รถเหล่านี้เป็นรถที่หายากตามเว็บไซต์ One2Car ซึ่งทางหากในอนาคต แบรนด์เหล่านี้เข้ามาตีตลาดเมืองไทยได้อย่างจริงจังมากขึ้น และ สร้างมุมมองใหม่ๆให้กับไทย ไม่แน่ รถเหล่านี้อาจเป็นรถประจำเทศของเราไปเลยก็ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่า คุณจะหารถเหล่านี้บนท้องถนนตอนนี้ไม่ได้ ใครที่กำลังมองหารถมือสองที่หายากๆ ของแรร์ไอเท็ม สภาพสวยๆ ราคาไม่แพงมาก ต้องมาดูที่ One2Car เลย
